มหกรรม Tokyo Olympic 2020 ที่ถึงแม้จะล่าช้าจากโรคระบาดที่สะเทือนไปทั่วทั้งโลก แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งสปิริตอันแรงกล้าของเจ้าภาพญี่ปุ่นที่ข้ามพรมแดนของโรคระบาด พร้อมประกาศจัดงานอย่างอลังการ เพื่อให้รู้ว่าพลังของมนุษย์นั้นยิ่งใหญ่พอที่จะสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรคเพื่อยืนหยัดสู่ที่ 1 ของโลกให้จงได้ และในประวัติศาสตร์ของมหกรรมกีฬาระดับโลกนี้ ไม่แปลกใจเลยที่โลกของภาพยนตร์ ได้บันทึกเรื่องราวอันหลากหลาย ที่น่าทึ่ง ทั้งซาบซึ้ง ทั้งระทึกใจ และนี่คือหนังเกี่ยวกับมหกรรมโอลิมปิก ที่คุณควรหาชม เพราะสนุกไม่ต่างกับการลุ้นการแข่งขันจริง ๆ เลย Tokyo Olympiad (1962, Kon Ichikawa) เริ่มต้นด้วยสารคดีที่บันทึกความยิ่งใหญ่สมัยที่โตเกียวเป็นเจ้าภาพในการจัดงานโอลิมปิคในครั้งแรกเมื่อปี 1964 ที่ได้ผู้กำกับระดับตำนาน Kon Ichikawa บันทึกภาพทั้งความยิ่งใหญ่ในการจัดงาน เพื่อแสดงให้เห็นความพร้อมของประเทศญี่ปุ่นหลังพ่ายแพ่ต่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และใช้เวลาเยียวยาพัฒนาจนกลับมายิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันหนังก็ได้รับการยกย่องในฐานะการสรรสร้างศิลปะบนเฟรมด้วยการถ่ายภาพระดับ Super Close-Up ที่ใกล้ชิดจนเห็นถึงกล้ามเนื้อและหยดเหงื่อ ทั้ง ๆ ที่การถ่ายทำนั้นไม่ได้มีการเซ็ทใด ๆ ผู้กำกับและตากล้องที่มีเพียง 2 คน ต่างสามารถบันทึกภาพงดงามของการแข่งขันในเสี้ยววินาทีราวกับงานศิลปะสุดอ่อนช้อย เข้มแข็ง และยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ หนังพูดน้อยมากเพื่อให้เราซึมซับภาพการแข่งขันอันสุดทะเยอทะยานชุดนี้ แม้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 50 นาที
แสงสี / ปาร์ตี้อันเย้ายวนใจ / ความเมามาย และเสียงเชียร์กระหึ่มเมื่อทีมบอลในดวงใจคว้าชัยชนะ อาจจะกลายเป็นเพียงภาพในอดีตที่ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้อีกต่อไป เนื่องจากอุตสาหกรรมไนท์คลับในอังกฤษกำลังถึงกาลอวสาน ทั้ง ๆ ที่เปิดประเทศไปแล้ว ไม่ใช่เพียงบ้านเราเท่านั้นที่ธุรกิจกลางคืนไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ เพราะขนาดประเทศอังกฤษ เมืองที่มีผับ บาร์ และไนท์คลับคับคั่งประเทศหนึ่งในโลก ต่างก็กำลังเผชิญวิกฤตปิดตายไม่ต่างกัน ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจกลางคืนนั้นเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจชั้นดีเสมอมา เกิดอะไรขึ้นกับประเทศที่สามารถเล่นคอนเสิร์ตและผู้ชมสามารถถอดแมสค์เพื่อรับชมคอนเสิร์ตได้ ไหนจะรับวัคซีนจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว แต่ทำไมธุรกิจกลางคืนยังไม่สามารถกลับมาเปิดได้ ซ้ำร้ายยังถูกหลายสื่อฟันธงว่า “มันถึงจุดสิ้นสุดของยุค และธุรกิจไนท์คลับได้ถูกทำลายอย่างย่อยยับไปแล้ว” ทำไมธุรกิจไนท์คลับถึงไม่สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม ? เว็บไซท์ของสำนักข่าว Bloomberg ได้ตั้งคำถามถึงวิกฤตขอวธุรกิจสถานบันเทิงเอาไว้อย่างน่าสนใจ สืบเนื่องจากอังกฤษได้ยืนกรานที่จะคืนเสรีภาพและการใช้ชีวิตของผู้คนให้เป็นปกติ โดยใช้วันดีเดย์คือวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมาเป็นวันแห่งเสรีภาพ หรือ Freedom Day ด้วยการคลายมาตรการรับมือกับเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการไม่จำกัดจำนวนคนในการชุมนุม ไปจนถึงสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้อย่างเสรี หากแต่ธุรกิจไนท์คลับนั้นกลับไม่สามารถเปิดได้แบบปกติ 100% เพราะเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ การติดเชื้อที่ไม่มีวันลดลง แม้อังกฤษจะเปิดประเทศด้วยการพยายามตอกย้ำว่า “เราต้องอยู่กับโรคระบาดนี้ให้ได้” แต่จำนวนผู้ป่วยนั้นกลับมาอยู่ที่ระดับ 50,000 รายต่อวันอีกครั้ง ซ้ำยังเป็นสายพันธุ์เดลต้า สายพันธุ์ล่าสุดที่แม้จะรับวัคซีนครบ