สั่งอาหารมากี่มื้อ แกะกล่องกินก็ไม่ได้ฟีลเหมือนกินที่ร้าน ทำไมเราถึงยอมจ่ายราคาอาหารแสนแพงกับบางร้านทั้งที่เป็นเมนูชนิดเดียวกัน เหตุผลอย่างหนึ่งก็เพราะบรรยากาศนั่งกินในร้านที่เจริญอาหาร สุนทรีย์กว่าที่อื่น แต่มาตรการป้องกันโรคระบาด COVID-19 ตอนนี้ ล้วนทำให้ร้านอาหารกับคนกินแยกออกจากกัน ตั้งแต่เกิดการระบาดช่วงแรก ๆ มาจนถึงตอนนี้ ต่อให้เราไปยืนซื้อถึงหน้าร้าน ร้านก็ไม่มีที่นั่งให้เรานั่งกินอยู่ดี จนมาถึงจุดที่ทั้งร้านอาหาร ทั้งเรา คิดถึงกันใจจะขาด ปัญหาที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญจึงเป็น การทำอย่างไรให้คนได้ใช้ชีวิตเหมือน 2 เดือนก่อนหน้านี้ ตอนที่เรายังใช้ชีวิตปกติ DOOR DASH กับบริการส่งอาหารเดลิเวอรีที่กินให้เหมือนอยู่ในร้าน Door Dash บริษัทสตาร์ตอัปสัญชาติอเมริกันที่ให้บริการส่งอาหารเดลิเวอรีเปิดโปรเจกต์ใหม่ดึงประสบการณ์ที่บ้านเหมือนกินที่ร้านที่เรียกว่า “The Lunchroom” โปรเจ็กต์นี้ดึงร้านอาหารอเมริกาในเครือชื่อดังหลายแห่งมาเข้าร่วมด้วย ได้แก่ Auntie Anne’s, The Cheesecake Factory, Baskin Robbins, Cracker Barrel, Outback Steakhouse McDonald’s ฯลฯ จากนั้นจะใช้วิธีดึงคนมาร้านอาหารผ่านวิดีโอแชทในรูปแบบ Virtual “สิ่งที่สำคัญที่สุดในมุมมองของผมคือการที่เราได้กินข้าวกับเพื่อนและครอบครัว ออกไปเดต หรือเลิกงานแล้วไปที่ร้านอาหาร เพื่อสร้างชั่วโมงแห่งความสุขกับมื้ออาหารสุดพิเศษที่ร้านอาหารดี ๆ สั่งแห่ง ซึ่งตอนนี้คุณจะได้มันครบทั้ง 2
ทีมงานมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์แชมป์สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทย 2013 ที่โลดแล่นบนสังเวียนหุ้นมา 10 ปี ลงทุนตั้งต้นตั้งแต่หลักแสน จนถึงวันนี้ “หลักร้อยล้าน” คุณซัน กระทรวง จารุศิระ ปัจจุบันยังเป็นเจ้าของกิจการมากกว่า 10 บริษัท และหนึ่งในบริษัทที่หลายคนน่าจะพอคุ้นคือ SUPER TRADER REPUBLIC และเจ้าของโครงการ SUPER TRADER THAILAND รายการที่ค้นหาสุดยอด Trader แห่งประเทศไทย พูดได้ว่าคุณซันมีประสบการณ์โชกโชนมากมายในวงการตลาดหุ้นในประเทศไทยเลยทีเดียว ในวิกฤต Covid-19 ที่ถาโถมตลาดหุ้น ณ ขณะนี้ เราจึงไม่พลาดที่จะไปสัมภาษณ์คุณซัน เพื่อนำข้อคิดแนวทางการลงทุนดี ๆ มาแบ่งปันกัน มุมมองสำหรับตลาดหุ้นไทย ณ ตอนนี้ คุณซัน มองว่าเป็นอย่างไรบ้าง **บทสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1266.40 จุด PE BENCHMARK อยู่ที่ประมาณ 14 เท่า ในมุมมองของผม ผมคิดว่าตลาดตอนนี้ไม่สะท้อนภาวะที่แท้จริง เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศในไตรมาสหนึ่งและไตรมาสสองของปีนี้
ตลาดหุ้นปี 2020 ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้นั้น ถือว่าเป็นปีที่ ที่เข้าขั้นว่า “สวิงรุนแรงที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นโลก” ก็ว่าได้ เรามาดูกันว่าวิกฤตตลาดทุนรอบนี้ สินทรัพย์การลงทุนประเภทไหนที่ได้รับผลกระทบทั้งแง่ดีและแง่ร้ายกันบ้าง วิกฤตน้ำมันโลก ราคาน้ำมันโลกช่วงสัปดาห์แรกของปี 2020 ถือว่าเปิดตัวได้อย่างหวือหวามากๆ สาเหตุจากความตึงเครียดระหว่าง อิหร่านและอเมริกา ที่ทางอเมริกาได้สังหารนายพลสุเลมานี และการประกาศจะคว่ำบาตรอิหร่าน จนทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลว่าชนวนเหตุนี้จะก่อให้เกิดสงครามระหว่างอิหร่านและอเมริกาขึ้นได้ แน่นอนเลยว่าความกังวลช่วงอาทิตย์แรกของปีนี้ ทำให้ราคาน้ำมันวิ่งแรงเกือบ 10% แล้วก็ร่วงหล่นมาต่ำกว่าที่เดิม ในวันเดียวกันนี้เองนั่นเอง! นี่แหละเสน่ห์ของตลาดทุนโลก….มันคาดเดาไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป ราคาน้ำมันก็ค่อย ๆ ปรับตัวลงเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้ลงแบบรุนแรงอะไรมากมาย จนกระทั่งการระบาดของไวรัสโคโรน่าหรือ Covid-19 ที่เรารู้จักกันดีตอนนี้ ผลกระทบของ Covid-19 แน่นอนว่าทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ต้องหยุดนิ่งแทบจะทุกประเทศทั่วโลก หลายประเทศมีการ lock down ปิดประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ “ธุรกิจสายการบิน” นั่นเอง และนี่คือจุดเริ่มต้นของความโหดร้ายของราคาน้ำมันโลกครับ เมื่อสายการบินทั่วโลกต้องหยุดการบิน แน่นอนเลยว่าอุปสงค์ (Demand) ของการใช้น้ำมันก็จะหายไปในพริบตา นี่คือสาเหตุหลักแรก ๆ ที่ทำให้ราคาน้ำมันโลกมีความเสี่ยงที่จะถูกลงแบบคาดไม่ถึง ที่สำคัญที่สุดคือการที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย “เปิดเกมสงครามราคาน้ำมัน” หลังจากการประชุม
เงินกู้สินเชื่อกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกของเจ้าของกิจการทั่วโลกช่วงโควิด-19 แต่การได้เงินง่าย ๆ แบบนี้ต้องวางแผนการใช้เงินก้อนให้ดี Travis Hornsby ผู้ก่อตั้ง Student Loan Planner และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่แก้ไขปัญหาหนี้รวมแล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้คำแนะนำ 6 เทคนิคการใช้เงินอย่างชาญฉลาดในภาวะจำเป็น ได้แก่ การเข้าร่วมโครงการรัฐ การลดรายจ่ายพยุงพนักงานและองค์กร การลงทุนสวนกระแสหากสายป่านยาว การลดรายได้ลงเพื่อซื้อใจลูกค้า การเตรียมกองทุนสำรองฉุกเฉินและสร้างหนทางเคลียร์สมองตัวเองเพื่อแก้ปัญหา เทคนิคเหล่านี้ต้องปรับใช้ตามความเหมาะสม เพราะแต่ละประเทศมีพื้นหลังและรายละเอียดที่แตกต่างกัน และถ้าคุณมีธุรกิจตัวเองอยากฝากร้าน เชิญที่ UNLOCKMEN MARKET OFFICIAL พื้นที่ใหม่ที่เราเปิดให้ฝากขายและซื้อของกันฟรี ๆ สิ่งที่จำเป็นสำหรับเจ้าของธุรกิจทุกคนตอนนี้คือการหาเงิน และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้การหาเงินที่หลายคนยังไม่พูดถึงคือการใช้เงินก้อนที่หามา หรือก้อนที่สำรองอยู่เพื่อพยุงตัวเอง นี่คือ 6 วิธีทั้งหาเงินและใช้เงินอย่างชาญฉลาดช่วงวิกฤตที่ได้จาก Travis Hornsby ผู้ก่อตั้ง Student Loan Planner ซึ่งคลุกคลีทั้งเรื่องหนี้และรายจ่ายมายาวนาน เขาแก้ไขปัญหาหนี้มารวมแล้วกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 6 ข้อจากนี้ไม่ใช่ความรู้เก่า ๆ ที่เอามาปัดฝุ่น แต่เป็นวิธีที่เขาใช้มันจริง ๆ กับกิจการตัวเองท่ามกลางโควิด-19 เทคนิคของเขาน่าสนใจจนเราต้องเลือกเรื่องนี้มาบอกต่อและถ้าคุณไม่มองข้าม
ทุกวันนี้ภาพอย่างเดียวอาจจะโฆษณาได้ไม่ดีเท่าการสร้างคลิปเคลื่อนไหว แต่ราคาของการจ้างคนมาทำให้ก็ไม่น้อย Youtube จึงปล่อยเครื่องมือฟรี ช่วย DIY คลิปขายของด้วยตัวเองสำหรับ SMEs ขนาดเล็กที่อยากโฆษณาผ่าน Youtube งานน้ีคนไม่เป็น Technical ก็มีโอกาสทัดเทียมมือเก๋าเดิมได้ในราคาย่อมเยาเพื่อสร้างวิดีโอเป็นของตัวเอง โดยข้อมูลที่เปิดเผยตอนนี้ระบุว่ามีลูกค้ากลุ่มเล็ก ๆ ที่อยู่ในช่วงวิกฤตนี้ทดลองทดสอบการใช้งานแล้วในช่วงที่ผ่านมา หลังจากพบว่าผู้ประกอบการรายย่อยหลายแห่งเจอปัญหาเรื่องการรักษากระแสเงินสด “เราหวังว่าเครื่องมือ Video Builder จะช่วยให้ธุรกิจทุกขนาดที่ต้องการสร้างวิดีโอไว ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในตอนนี้ สามารถใช้งานและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด หลังจากที่ได้ยินว่าพวกเขาอยากจะอัปเดตการสื่อสารรูปแบบใหม่ ๆ ให้ลูกค้า และอยากทำมักให้ง่ายที่สุด” – Ali Miller ผู้กำกับด้านการจัดการผลิตภัณฑ์ที่ Youtube Ads วิธีการใช้เครื่องมือนี้ ใช้ง่าย ไม่ว่าจะมีบัญชี Google หรือไม่ก็ตาม ทั้งหมดล้วนสามารถเชื่อมโยงบัญชีเข้ากับ Google แทนได้ จากนั้นจึงเซฟและเผยแพร่ผ่านแชนแนล Youtube สำหรับตัว Beta ของ Video Builder ที่เพิ่งปล่อยให้ใช้สามารถสร้างคลิปได้จากองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีทั้งภาพ ข้อความ รวมทั้งภาพถ่ายซึ่งสามารถซิงก์ร่วมกับเพลงประกอบฟรี ที่มีในคลังของ
ช่วงนี้หลายคนแห่กันไปถอนเงิน ขายกองทุน ขายหุ้น ไปออกันหน้าธนาคารสีต่าง ๆ มันทำให้เราอดคิดถึงศัพท์ทางการเงินตัวนึงที่เรียกว่า “Bank Run” ไม่ได้ Bank Run คืออะไร? คนที่ไม่ได้ติดตามเรื่องเศรษฐกิจการลงทุนเท่าไร อาจจะไม่คุ้นหูกับคำนี้นัก แต่คนที่อยู่ในวงการลงทุน คลุกคลีกับธนาคารอยู่บ้าง ได้ฟังคำนี้แล้วคงสยองน่าดู เพราะอะไร มาทำความรู้จักไปพร้อมกัน BANK RUN คือวิ่งไปแบงก์…ไปเอาเงินออก คำว่า “Bank Run” มันเป็นสัญญาณอันตรายตัวหนึ่ง ที่คนแห่กันไปสถาบันการเงินเพื่อถอนเงินออกมา เพราะขาดความเชื่อมั่นในสถาบันการเงินที่ฝาก ว่าง่าย ๆ ว่าเรากลัวสถาบันการเงินนั้นล้มละลายนั่นแหละ หรืออาจจะเพราะผลกระทบอะไรบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อไหร่ที่มันมีสัญญาณพะงาบ ๆ ต้องกู้คนอื่น โดนคนอื่นกู้ หรือดูทรงจะไปไม่ไหวก็หมายความว่าโอกาสจะล้มอาจจะสูง จนเงินที่เราฝากไว้มลายหายไปต่อหน้า งั้นจะรออะไรล่ะ…ถ้าเราเป็นเจ้าของเงินที่รู้สึกเสี่ยง เราก็วิ่งไปเอาเงินออก ก่อนจะเอาเงินออกมาไม่ได้อยู่แล้ว เอาจริง ๆ ถ้าให้อธิบายให้เห็นภาพง่าย ๆ เราคิดว่ามันเป็นกลไกนึงของพฤติกรรมมนุษย์ที่มีกลิ่นความคล้ายพฤติกรรมการลงทุนปกติ เวลาที่ตลาดตกใจ คนจะก็แห่ไปเทขายหุ้นหรือกองทุนที่ตัวเองลงทุน แต่ลองคิดภาพตามดี ๆ สิ ว่าถ้าทุกคนไปที่แบงก์ เพื่อถอนเงินออกจากบัญชีทั้งหมดมันจะน่ากลัวขนาดไหน ถ้าคนแห่มาถอนเงินทั้งหมดไปพร้อมกัน หลายคนถามว่าก็แค่คนไปถอนเอาเงินเขาออกมา
วิกฤตเศรษฐกิจโลกตอนนี้ พยากรณ์กันว่าสหรัฐฯ จะแย่กว่าตอนเจอวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ เพราะ Social Distancing สร้างปรากฏการณ์ Economic Distancing ตามมา คนไม่ได้ตกงานจากการเลิกจ้างแต่มาจากการกักกัน ภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบ่งเป็นระลอกคลื่น 4 ลูก ได้แก่ สภาวะสังคมแช่แข็งกะทันหัน, คนตกงาน, คนเกษียณบั้นปลายพัง และอุตสาหกรรมการลงทุนที่โดนตัดแขนขา ตามลำดับ ไทยอยู่ในเฟสแจกเงิน แต่หากเป็นไปตามการพยากรณ์ที่เทียบกับสหรัฐฯ การแจกเงินให้คนไปเก็บไว้ ไม่ได้ทำให้คนหายตกงานและคนจะไม่ออกมาใช้เงิน ธุรกิจขนาดเล็กและ SMEs ที่โดนก่อนอาจจะไม่รอด จึงควรมีมาตรการด้านอื่นช่วยส่งเสริมและธุรกิจเหล่านี้ก่อนลูกโซ่ของโดมิโนตัวแรกจะล้มลง เมื่อถึงคราวอัดฉีดเงินหลังไวรัสจากไป รัฐควรมีส่วนสนับสนุนและอัดฉีดเพื่อให้กราฟที่ดิ่งเด้งขึ้นในเร็ววัน หากสถานการณ์ยืดเกินเดือน พ.ค. ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายประเทศคาดการณ์ว่าอาจยาวได้ถึงปลายปี ก็มีโอกาสสูงที่บาดแผลนี้จะยิงยาวไป 4-5 ปี เมื่อไม่กี่วันก่อน เรามีโอกาสได้ออกไปข้างนอกซื้อของเข้าบ้าน เห็นชัดว่าธนาคารสีชมพูสาขาใกล้บ้านมีคนมาอออยู่หน้าธนาคารเพียบ มั่นใจได้ว่าช่วงนี้คงไม่ได้ออกันเพื่อเอาเงินเข้า แต่เป็นยืนรอถอนเงินออกเพราะไม่มั่นใจว่าสภาวะนี้เงินสดในมือจะพอใช้หรือเปล่า หรือถ้าวันไหนเกิดธนาคารปิด ถอนเงินออกมาไม่ได้เราจะเอาอะไรกินกัน? แล้วไวรัสหรือข้าวปลา อันไหนที่น่ากลัวกว่ากัน ? เศรษฐกิจตอนนี้มันตกหรือกระทบกันแค่ไหน UNLOCKMEN ขอสรุปเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าง่าย ๆ ที่เราย่อยมาจากบทความสัมภาษณ์ Mark Zandi หัวหน้าเศรษฐศาสตร์ของ
ชีวิตการลงทุนมันโหดร้าย จนมีคนไปทำเป็นภาพยนตร์หลายเรื่อง แล้วทำไมเราถึงจะไม่ศึกษาจากสิ่งรอบตัวหละ
ช่วงนี้ขายของไม่ดี ตอนนี้ทุกแบรนด์เลยงัดทุกกลยุทธ์ที่มีมาใช้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่อ่อนไหวแบบนี้ ใช่ว่าการตลาดที่คิดไว้จะได้ผลและที่สำคัญถ้าหวังจะโหนกระแสแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ แคมเปญหรือสิ่งที่คิดที่เผยแพร่ช่วงนี้อาจจะพาแบรนด์ร่วงได้ไม่รู้ตัว ทุกวงการต้องมีกฎ ทุกสถานการณ์ก็มีเส้นของมันที่ห้ามข้าม และนี่คือ 6 เทคนิคต้องรู้ก่อนวางกลยุทธ์ธุรกิจช่วงนี้ หลักการหลายข้อในนี้แม้สิ้นสุดสถานการณ์นี้ไปยังไงก็ยังเก็บมาใช้ได้ ถามตัวเองว่าทำไมคนจะต้องซื้อของ ๆ เรา สถานการณ์วิกฤตที่จิตใจคนกำลังอ่อนไหว จำไว้เสมอทุกแบรนด์กำลังทำสงครามความเชื่อมั่นอยู่ ของที่คุณขายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จะต้องเน้นคุณภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิต และชักจูงอารมณ์ให้คนรู้สึกว่า “ควรซื้อ” สินค้า ลองพิจารณาสินค้าที่มีในมือ หาเอกลักษณ์ที่สามารถตอบโจทย์อินไซต์คนตอนนี้ ต่อให้ไม่สามารถช่วยเรื่องการป้องกันโรคโดยตรง แต่มันอาจจะมีข้อดีอื่น ๆ ที่สร้างความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ หรือไวรัลกับฝูงชนที่เบื่อ ๆ อยู่บ้านได้ อย่าห้าวหิวเงิน เป็นฝ่ายให้และแบ่งปันก่อนเพื่อจดจำ ถึงจะต้องคิดถึงปากท้อง ต้องกินต้องใช้ แต่นาทีวิกฤตคนโลภจะอยู่ไม่ยืดอย่างที่คิด ดังนั้น ไม่ว่าสิ่งที่เราขายจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวกับสถานการณ์นี้ การตลาดที่ดียังคงเป็นการจัดแคมเปญ CSR หรือสร้างคอนเทนต์ให้คุณค่ากับสังคม จำไว้ว่าเมื่อไรที่คนเครียด คนเศร้า ถ้าเราป้อนความบันเทิงหรือสิ่งอื่นที่เขาจะได้ประโยชน์จากมัน ความรู้สึกบวกกับแบรนด์และการจัดอันดับในใจอาจนำเขากลับมาสนับสนุนเราได้ ตัวอย่างของสิ่งที่ควรทำ กรองคำ ระวังการใช้ภาษาเกินจริง อย่าโม้เก่ง ยกข้อดีเกินงาม เพราะหลายคนไม่มีงานทำในสถานการณ์นี้ ดังนั้น ควรแสดงความเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจกันและกัน
การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-2019 ที่เราทั้งหลายต่างประสบกันอยู่ ณ ตอนนี้ บอกเลยว่ามันส่งผลกระทบไปทุกหย่อมหญ้า ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนร่วมทวีปอย่างญี่ปุ่น ที่แม้จะเป็นประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยี และเป็นประเทศที่สามารถรับมือภัยพิบัติได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ก็ยังไม่วายถูกวิกฤติ COVID-2019 เล่นงาน จนตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ลดลงไปกว่า 58% และเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา ภาคธุรกิจของญี่ปุ่นดูเหมือนจะยิ่งทรุดหนัก กับภาพสะท้อนของตลาดทุนสุดซบเซา ด้วยดัชนี Nikkei 225 ที่ดิ่งลงไปถึง 1.68% ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 3 ปี แต่ในวันที่อะไร ๆ ดูเหมือนจะเป็นลบ กลับมีหุ้นตัวหนึ่งฉายแสงขึ้นมา นั่นคือหุ้นของ Fujifilm Holdings Corp. ที่พุ่งทะยานขึ้นไปกว่า 700 จุด หรือพุ่งขึ้นไป 15.43% ปิดตลาดแบบชื่นมื่นที่ 5,238 จุด ในวันเดียวกันกับที่ดัชนี Nikkei 225 หดหู่ที่สุดในรอบ 3 ปี แบบไม่แคร์เพื่อนร่วมตลาด ถ้าไม่ได้อ่าน Headline
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้องค์กรหลายแห่งต้องเลือกชีวิต สุขภาพ และความปลอดภัยของคนทำงานมาเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทหลายแห่งจึงประกาศนโยบาย Work From Home กันทั่วหน้า นั่นหมายถึงว่าการสื่อสารภายในองค์กร ภายในทีม หรือแม้แต่ระหว่างคนทำงานด้วยกันจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากการสื่อสารที่เคยคล่องตัวและตรงไปตรงมา แค่เดินไปหาก็พูดคุยได้ไม่ผิดพลาด สงสัยอะไรตรงไหนก็เจอตัวกันทันที หรือการประชุมแบบพร้อมหน้าพร้อมตาที่เห็นกันชัด ๆ ว่าจะไม่มีใครพลาดเรื่องสำคัญไป นำไปสู่วิธีการสื่อสารที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีเข้าช่วย แต่อีกทางนี่คือโอกาสอันดีที่แต่ละองค์กรจะได้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มที่ใช้สื่อสารกันว่าจะเชื่อมผู้คนถึงกันได้มากแค่ไหน แต่สิ่งที่คนทำงานไม่ว่าระดับไหนควรรู้ไว้คือการสื่อสารเมื่อทุกคนต่างทำงานจากทุกหนทุกแห่งอาจเป็นอีกความท้าทายที่เราทุกคนควรเตรียมตัวให้พร้อม UNLOCKMEN จึงเอาวิธีการสื่อสารให้ทรงพลัง ในวันที่เราต้องทำงานไกลกัน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดจากการเข้าใจผิด การพูดไม่เคลียร์ งานของเราจะได้มีประสิทธิภาพอยู่เสมอไม่ว่าจะทำงานจากที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม เมื่อไม่ได้ประชุมต่อหน้า “คำพูดที่ไม่ได้พูด” คือหัวใจสำคัญ ไม่ว่าองค์กรของคุณจะเลือกใช้แพลตฟอร์มใดเป็นตัวกลางในการประชุมหรือสื่อสาร สิ่งสำคัญของการไม่ได้เข้าประชุมพร้อมหน้าพร้อมตากัน คือการสังเกตสิ่งที่ซ่อนไว้จากคำพูดที่ไม่ได้พูดให้ดี มนุษย์มีแนวโน้มจะระวังตัวและควบคุมตัวเองเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในห้องประชุมอันเป็นทางการ ต่างจากการวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จากที่บ้าน หรือการพิมพ์คุยงานผ่านแชตที่จะรู้สึกว่าอยู่ในพื้นที่ของตัวเองและเป็นตัวเองมากกว่า เมื่อรู้สึกผ่อนคลายในพื้นที่ของตัวเอง ภาษากาย สายตา หรือแม้แต่การเว้นจังหวะการพิมพ์ที่สื่อสารออกมา (โดยไม่ควบคุมตัวเองมากนักนั้นสำคัญ) ดังนั้นถ้าคุณคือผู้บริหารหรือคนนำการประชุมในแต่ละครั้ง นอกจากแค่รอฟังว่าองค์ประชุมแต่ละคนจะพูดอะไรออกมาโต้ง ๆ ก็อาจหมายรวมถึงการคอยสังเกตปฏิกิริยา ภาษากายของผู้เข้าร่วมประชุมคู่กันไปด้วย เนื่องจากบางคำที่พลาดไป บางเรื่องที่อาจสื่อสารได้ไม่ครอบคลุม ผู้เข้าร่วมประชุมอาจไม่ได้ยกมือถามได้ง่าย ๆ เหมือนตอนประชุมอยู่ต่อหน้ากัน รวมถึงระบบเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อาจทำให้หัวข้อดีเลย์ การเป็นผู้นำการประชุมที่คอยสังเกตสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น “เลือกแพลตฟอร์มให้ตรงกับประเภทข้อมูล”
“การเรียนรู้ไม่มีวันหยุด” ใครหลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้บ่อยพอ ๆ กับประโยคที่ว่า “การเรียนรู้ไม่มีพรมแดน” แต่ 2 ประโยคนี้ก็คล้ายเป็นเรื่องนามธรรมที่กรอกหูผู้ชายอย่างเราไปแกน ๆ ว่า เฮ้ย มึงอย่าหยุดเรียนรู้นะเว้ย การเรียนรู้แม่งดีว่ะ โดยไม่ได้สร้างแรงจูงใจมากไปกว่านั้น แต่ในช่วงที่เราต้องออกนอกบ้านน้อยลงเพื่อลดความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 หรือใครหลายคนที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงกับตำแหน่งการงานเพราะสภาวะเศรษฐกิจ จนร้อน ๆ หนาว ๆ ไม่รู้จะโดนปลดออกเมื่อไร คำว่า “การเรียนรู้ไม่มีวันหยุด” ก็คล้ายจะเริ่มเป็นรูปธรรมแจ่มชัดขึ้นมา แทนที่จะปล่อยเวลาให้หมดไปกับความเครียดหรือกังวล UNLOCKMEN ชวนมาปลดล็อกศักยภาพ พัฒนาตัวเองให้สุดขีดด้วยคอร์สออนไลน์ เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ช่วยเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ในวันที่หน้าที่การงานอาจสั่นคลอนเมื่อใดก้ได้ หรืออย่างน้อยที่สุดการมีความรู้ประดับตัวไว้จะหยิบจับอะไรก็คล่องตัวกว่าคนที่ไม่รู้เป็นแน่ edX ลึก ๆ ในใจเราทุกคนล้วนแต่ต้องเคยอยากเข้าเรียน หรืออย่างน้อยก็อยากรู้ว่ามหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลกนั้นเขาเรียน เขาสอนอะไรกัน? แล้วถ้าเราบอกว่า edX คือแพลตฟอร์มการเรียนการสอนออนไลน์จากมหาวิทยาลัยคุณภาพคับแก้วอย่างมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคุณจะสนใจไหม? edX ไม่ใช่แค่มีคอร์สมาจากมหาวิทยาลัยคุณภาพเท่านั้นแต่ยังฟรีหมดอีกต่างหาก! ไม่ใช่แค่ได้เรียนคอร์สจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยเครือข่าย (ที่ดังและคุณภาพระดับโลก) เท่านั้น แต่เราชอบคอร์สออนไลน์ของ edX ตรงที่เราได้เห็นบรรยากาศการเรียนในคลาสนั้น ๆ ไปด้วย เช่น