มีหนังสือหลายเล่มที่เขียนถึงประโยชน์ของการทำ “Handstand” หรือ “การยืนด้วยมือ” โดยการทำ Handstand ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการออกกำลังแบบ Bodyweight ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดท่าหนึ่งเลยทีเดียว “Handstand”ยังเป็นการฝึกการทรงตัวและสมาธิไปในตัวอีกด้วย แต่ด้วยความยากของท่ากายบริหารท่านี้ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมทำกันนัก แต่ก็ด้วยความยากนี่เองที่มันท้าทายความสามารถของผู้ชายอย่างเรา โดยเฉพาะชาว UNLOCKMEN ด้วยแล้ว เราเชื่อว่าทุกคนจะสามารถปลดล็อคศักยภาพของตัวเองให้ทำท่านี้ได้อย่างแน่นอน วันนี้เราจึงได้นำเอาเทคนิค และวิธีการออกกำลังด้วยท่า Handstand มาให้กับทุกท่านได้ลองนำไปทำกันดู แล้วจะรู้ว่าการออกกำลังด้วยท่ากายบริหารเพียงท่าเดียวนั้น สามารถช่วยให้คุณแข็งแกร่งมากขึ้นมากขนาดไหน แถวใช้เวลาเพียงน้อยนิดสุด ๆ อีกด้วย การทำ Handstand เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ควรที่จะทำต่อเนื่องทุกวัน หากคุณต้องการที่จะเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วและมีการทรงตัวดีเยี่ยม การออกกำลังแบบ Bodyweight ชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ใด ๆ นอกจากผนังห้อง สำหรับมือใหม่ การเริ่มต้นจากการทำ Handstand แบบพิงกับผนังห้องจะช่วยให้คุณไม่ต้องกลัวว่าจะหงายหลัง แน่นอนว่ามันอาจจะทำไม่สำเร็จในครั้งแรก แต่ถ้าหากคุณทำมันอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน คุณจะเริ่มจับจุดได้เองในที่สุด ดังนั้น คุณจะต้องใจเย็น ๆ อาจจะเริ่มจากการทำให้ได้แค่ 2 วินาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญ
ไม่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงแค่ไหน ชีวิตเราก็ต้องพบปะกับการเจรจาต่อรองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องง่าย ๆ อย่างการต่อรองกับเพื่อนว่าจะไปกินเหล้าร้านไหนกันดี ต่อรองกับแฟนสาวเพื่อขอออกไปเที่ยว ไปจนถึงเรื่องราวยิ่งใหญ่อย่างการเจรจาต่อรองทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาต่อรองระดับไหน เราก็ล้วนแต่ต้องการจะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะไว้ในมือทั้งนั้น UNLOCKMEN จึงเอาเทคนิคการเจรจาต่อรองที่ใช้ความฉลาดทางอารมณ์ล้วน ๆ จากคำบอกเล่าของ Chris Voss อดีต FBI Crisis Negotiation Team ที่ทำงานด้านการเจรจาต่อรองมากว่า 24 ปี ถ้าได้เทคนิคที่ผ่านการสรุปจากการทำงานยาวนานจากเขามาใช้ รับรองว่าเจรจาครั้งต่อไป ไม่มีพลาดแน่นอน 1.พูดทวนคำ หนึ่งในวิธีการสุดสามัญคือการพูดทวน หรือพูดซ้ำคำ โดยพูดซ้ำ 1-3 คำล่าสุดที่คู่เจรจาของคุณเพิ่งพูดออกมา เพราะนี่คือวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการสร้างความรู้สึกเป็นมิตรกับคู่เจรจา และทำให้คู่เจรจาของคุณรู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะเปิดใจคุยกับคุณ สิ่งที่ขาดไม่ได้นอกจากการทวนและซ้ำคำ ก็คือน้ำเสียง ให้ใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลและเป็นมิตรที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ถ้านึกไม่ออก ก็นึกถึงเสียงของดีเจเปิดเพลงในวิทยุช่วงกลางดึก เทคนิคเหล่านี้จะช่วยทำให้บทสนทนาดำเนินไปอย่างช้าลง ช่วยประวิงเวลาให้เราสามารถคิดอะไรก่อนพูดได้มากกว่าเดิม 2.แสดงความเอาใจใส่ แสดงให้คู่เจรจาของคุณเห็นว่า คุณสังเกตเห็นอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เขาแสดงออกมา โดยพยายามสังเกตจากสีหน้า คำพูด โดยเฉพาะความรู้สึกทางลบ และอย่าลืมพูดวลีที่แสดงออกมาว่าคุณรู้ว่าเขารู้สึกอะไร เช่น “ฟังดูเหมือนคุณกำลังกลัวที่จะ…นะ” หรือ “ดูเหมือนว่าคุณกำลังกังวลเรื่อง…นะ” เป็นการแสดงให้รู้ว่าเรามองเขาออก