ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงกำลังรอการอัปเดตข่าวระดับนาทีต่อนาที หลังจากมีประกาศตัดสัมพันธ์ระหว่าง Google กับ Huawei ออกมาเมื่อวานนี้ เพราะเพิ่งจะไปถอยมือถือ Huawei P30 ตัวใหม่มา ผ่อนก็ยังไม่หมด หรือต่อให้เป็นรุ่นอื่นที่เคยออกมาก่อนก็เริ่มกังวลเหมือนกันว่าการคว่ำบาตรครั้งนี้จะทำให้เราต้องไปซื้อมือถือเครื่องใหม่จากค่ายอื่นมาใช้งานแทนไหม เราเองก็ใช้ Huawei และติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมามีข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกา (US Commerce Department) ได้ประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับ Huawei ชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน แปลว่าจากนี้จนถึงเดือนสิงหาทุกอย่างจะยังอยู่ในความสงบ ข่าวนี้ทำให้เห็นว่าการจับ Huawei เข้ามาเป็นแพะในเกมดูจะไม่หมูอย่างที่คิด ก่อนจะไปลุ้นว่าสุดท้ายงานนี้จะหมู่หรือจ่า UNLOCKMEN ได้นำเรื่องนี้มาสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ด้านล่างแล้ว FROM TRADE WAR TO ABANDON HUAWEI สำหรับคนที่ยังไม่เคลียร์ว่าทำไมจีนกับสหรัฐฯ ทะเลาะกัน แต่ Google ดันออกตัวแรงมาประกาศแยกทางก่อนใครเพื่อนนั้น ความจริงแล้ว Google เขาก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรกับ Huawei เป็นการส่วนตัว แต่เพราะพ่อเจ้าประคุณประธานาธิบดีอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ดันออกคำสั่งเรื่องห้ามใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมที่เป็นภัยคุกคามจึงทำให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ใส่ชื่อของ Huawei
“ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนางเงือก ร่างชี้ว่าเป็นชายแต่จิตวิญญาณคือหญิงสาว ฉันเหมือนดอกไม้ ดอกไม้ที่สร้างขึ้นจากกระดาษ แม้รับความรักท่วมท้นจากภายนอกเมื่อมองมา แต่ไม่ได้อาจสัมผัสความรู้สึกนี้จากการแตะต้องและดอมดม” Heena, 51, ธากา, บังกลาเทศ, 2012 Hijra (ฮิจรา) คือกลุ่มคนที่มีเพศสภาพที่แตกต่างจากเพศสถานะภายใน ใช้สำหรับเรียกเพศที่สามที่กายเป็นชายแต่ใจเป็นหญิงและดำเนินชีวิตแบบหญิงสาว คำศัพท์ที่ชี้หน้าและตีตราความรู้สึกของบทบาทความเป็นชายหญิงและความ “เป็นอื่น” ทางสังคม ถ้าพูดในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว “ฮิจรา” ปรากฏหลักฐานมายาวนาน นานพอจะเชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคม แต่ค่านิยมแง่ลบไม่ได้หายไปพร้อมกาลเวลา เหลือเป็นคราบติดแน่นฝังไว้ถึงวันนี้แม้รัฐบาลบังกลาเทศจะออกกฎหมายแสดงการรับรองสิทธิทางเพศมา 5 ปีแล้วก็ตาม การใช้ชีวิตต้องสาปด้วยคำสาป บางคนสงสัยว่าสถานะต้องสาปที่ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้นี้จะใช้ชีวิตอย่างไร คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการหางานเพราะไม่มีใครยอมรับ หรือสิทธิพลเมืองอื่น ๆ ที่ถูกริดรอนไป สิ่งที่พิทักษ์ฮิจราไว้คือระบบความเชื่อบางอย่างของสังคมที่ฝังมายาวนาน ว่าเพศที่สามอย่างพวกเธอคือผู้มีอำนาจพิเศษจากการบูชาพระแม่พหุชระหรือมาตากี ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมา ทำให้สามารถสาปแช่งหรือให้พรได้ ดังนั้น วาจาศักดิ์สิทธิ์นี้จึงกลายเป็นเครื่องมือทำกินที่ทำให้ฮิจราสามารถรับเงินมาได้จากการอวยพรเด็กแรกเกิดที่ครอบครัวต่าง ๆ เชิญไป และเป็นอาวุธปกป้องตัวเองจากผู้ไม่ประสงค์ดีด้วยการสาปแช่งผู้คน ซึ่งเชื่อกันว่าใครได้รับคำบริภาษนั้นไปจะต้องโชคร้าย เงือกที่ไม่อาจเป็นมนุษย์ ดอกไม้เทียมที่ไม่อาจเป็นดอกไม้จริง คือความเจ็บปวดที่ฮิจราชาวบังกลาเทศต้องยอมรับ จิตวิญญาณที่ขัดแย้งกับเปลือกที่รับมาทำให้พวกเธอต้องกลายเป็นคนไร้ราก หอบชีวิตออกจากแผ่นดินเกิดคนแล้วคนเล่า ถูกทอดทิ้งจากความสัมพันธ์เบื้องหลังทุกรูปแบบเพื่อย้ายไปยังอินเดีย สถานที่ที่พวกเธอยังคงได้รับการดูหมิ่นดูแคลนไม่แพ้กันแต่ระดับความเลวร้ายต่ำกว่า ทว่าในความมืดมิดอ้างว้างก็แทนที่ได้ด้วยความสัมพันธ์เหนียวแน่นระหว่างฮิจราด้วยกัน ดังนั้น ถ้าเราไปพบพวกเธอเป็นกลุ่มใหญ่ นั่นคือครอบครัวใหม่ของพวกเธอ Sharhia Sharmin