หลังจากที่เราเรียนจบมหาวิทยาลัย และกำลังเข้าสู่วัยทำงาน หลายคนคงเคยเจอกับสถานการณ์ที่ต้องเลือกระหว่าง “งานที่เงินดีแต่ไม่มีเวลาทำอย่างอื่น” หรือ “งานที่เงินอาจจะให้เงินไม่ดีมากเมื่อเทียบกับงานแรก แต่ก็ทำให้เรามีเวลาไปใช้ชีวิตมากกว่า” แต่ละคนคงมีเหตุผลในการเลือกงานที่แตกต่างกันไป บางคนกำลังเจอกับปัญหาเรื่องการเงินก็เลยเลือกงานที่มีเวลาว่างน้อย หรือ บางคนที่ไม่มีความเครียดเรื่องเงินก็อาจเลือกงานที่ได้เงินเดือนคุ้มค่ากับเวลา แต่ไม่ว่าคุณเลือกงานแบบไหน อาจต้องคิดถึง ‘ความสุข’ ของตัวเองด้วย เพราะงานวิจัยบอกเราว่าคนที่ให้ความสำคัญกับเงินอาจไม่ใช่คนที่มีความสุขมากเท่าไหร่ งานวิจัยชิ้นหนึ่ง (2019) ได้ขอให้นักศึกษาที่กำลังเรียนจบจาก University of British Columbia จำนวนกว่า 1,000 คน ทำแบบประเมินที่วัดว่าพวกเขามีแนวโน้มจะให้คุณค่ากับเวลามากกว่าเงิน หรือ เงินมากกว่าเวลา ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูล นักวิจัย พบว่า เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ (61.7 %) ให้ความสำคัญกับเวลามากกว่าเงิน ในขณะที่เด็กนักเรียนเกือบ 40% ให้ความสำคัญกับเงินมากกว่า นอกจากนี้นักวิจัยยังขอให้พวกเขารายงานระดับความ พึงพอใจในชีวิตของตัวเอง (life satisfaction) โดยการตอบคำถามเช่น “Taking all things together, how happy would you say you are?”
ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “เต๋า” นักร้องนำวง Sweet Mullet ศิลปินที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนมากที่สุดวงหนึ่งของวงการดนตรีไทย ฝากผลงานเพลงดังเอาไว้มากมายไม่วาจะเป็น ‘ตอบ’, ‘เพลงของคนโง่’, ‘หลับข้ามวัน’, ‘สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน’, ‘ภาพติดตา’ และ ‘พลังแสงอาทิตย์’ รวมไปถึงผ่านการขึ้นเวทีในราชมังคลากีฬาสถานกับเทศกาลดนตรี G19 ท่ามกลางคนดูนับหมื่นมาแล้ว แต่ภาพของความสำเร็จที่ดูสวยงาม แท้จริงแล้วกว่าที่จะออกมาให้ทุกคนได้เห็น มันต้องผ่านทั้งความอดทน การต่อสู้ และความเหน็ดเหนื่อยมาอย่างมากมาย ทำให้ชีวิตต้องเจอกับความท้าทายไต่เย้ยนรกที่แวะเข้ามาทักทายตลอดไม่เว้นแต่ละวัน ชีวิตของเต๋าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง Unlockmen มีคำตอบให้กับบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ชีวิตวัยเด็ก เน้นเล่นไม่เน้นเรียน “ผมก็เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่สนใจเรียน วัน ๆ เอาแต่สนใจเรื่องเล่นมากกว่า เช่น พวกการ์ตูน เกม จำได้ว่าเคยสอบได้ที่โหล่ของห้องด้วย เคยโดนเชิญผู้ปกครองมาคุยว่าทำไมถึงไม่ตั้งใจเรียน ผมชอบนั่งคุยกับเพื่อนครับ ไม่ได้สนใจคุณครูที่อยู่ตรงหน้าเลย หรือต่อให้นั่งฟัง ผมก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ พอว่างก็วาดรูปในสมุดเล่น ตอนมัธยมเกือบเรียนไม่จบ ผ่านไปด้วยคะแนนที่แบบ คือถ้าเปิดสมุดพกมาจะเห็นชัดเลย แต่พอช่วงที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย มันตรงกับช่วงที่บ้านมีปัญหาทางการเงิน ผมก็เลยเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้แล้วนะ เราเรียนที่มหาวิทยาลัยสยาม เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าหน่วยกิตมันแพงมาก ผมก็เลยคิดว่าเราต้องตั้งใจเรียนแล้วนะ
หากคุณต้องเจอกับความล้มเหลว คุณจะจัดการปัญหาเหล่านั้นอย่างไร? จะยอมแพ้เดินหนีไปหรือจะไม่ย่อท้อลุกขึ้นสู้กับมัน แต่สำหรับ Memphis Depay นักฟุตบอลชาวดัตช์เลือกที่จะทำอย่างหลัง ชายผู้เคยล้มเหลวในประเทศอังกฤษแต่กลับยืนหยัดกลับขึ้นมาผงาดได้ราวกับนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่จากกองเถ้าถ่าน Memphis Depay เริ่มต้นเส้นทางบนโลกฟุตบอลตั้งแต่วัย 8 ขวบ เขาได้สร้างความประทับใจให้กับทีมงานแมวมองของทีม Sparta Rotterdam จนถูกจับไปเข้าร่วมทีมเพื่อปลุกปั้นเพาะพันธุ์เยาวชนแห่งโลกฟุตบอลในเนเธอร์แลนด์ จนกระทั่งอายุได้ 12 ปี จึงเริ่มขยับขยายสู่เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพด้วยการเลือกเล่นให้กับทีมเยาวชนของ PSV Eindhoven ที่มีชื่อว่า “Jong PSV” ก้าวแรกกับ PSV EINDHOVEN ด้วยทักษะอันร้ายกาจจนเป็นที่เลื่องลือทำให้ในปี 2011 ทีมชุดใหญ่ของ PSV ได้เรียกตัว Depay มาทดสอบฝีเท้า และเขาก็ใช้เวลาไม่นาน ในเดือนกันยายนปี 2011 Depay ในวัย 17 ปี ได้เดบิวต์ทีมชุดใหญ่ในเกม KNVB Cup รอบ 2 ที่พบกับทีม VVSB เกมนั้นทีมของเขาถล่มคู่แข่งไป 8-0 หลังจากนั้นเวลาผ่านไป 5 เดือน Depay
แม้งานวิจัยหลายชิ้นจะพูดถึงหลายผลเสียของ Multitasking หรือ การทำภาระหลายอย่างพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็น ทำให้เนื้อสมองสีเทา (grey matter) ในสมองลดลง ทำให้ความทรงจำแย่ลง ทำให้มีสมาธิน้อยลง ทำให้เป็นภาวะซึมเศร้าและวิตกกังวลมากขึ้น ไปจนถึง ทำให้เรามีความ productive ลดลง แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถโฟกัสกับงานที่ละชิ้นได้ อาจเพราะมีงานหลายชิ้นที่ต้องทำให้เสร็จในเวลาเดียว หรือ อาจทำงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารที่ต้องใช้สมาธิกับภาระหลายอย่างพร้อมกัน บางคนจึงต้อง Multitasking อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากใครเจอที่กำลังเจอกับปัญหาแนวนี้ เรามี 3 คำแนะนำที่จะช่วยให้คุณ multitasking ได้เทพขึ้นกว่าเดิมมาฝาก ทำงานที่คล้ายกันพร้อมกัน สมองของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทำงานที่ใช้ ฟังก์ชันสมองระดับสูง (High-level brain function) พร้อมกันได้ (เช่น งานที่เกี่ยวข้องกับการหาไอเดีย และ งานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนแก้ปัญหา เป็นต้น) พูดง่าย ๆ คือ เราไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้ความคิดพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งที่เราทำพร้อมกันได้มีเพียงงานที่ใช้ ฟังก์ชันสมองระดับต่ำ (Low-level brain functions) เช่น การหายใจ กับ การสูบฉีดเลือด
หากจะให้พูดถึงผู้รักษาประตูที่มีฟอร์มการเล่นร้อนแรงมากที่สุดในชั่วโมงนี้ คงต้องยกให้ Edouard Mendy จากเชลซี และทีมชาติเซเนกัล จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในแนวรับของทีมสิงห์บลูส์ที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา แต่กว่าที่ Mendy จะก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารระดับโลก ต้องผ่านอุปสรรคมามากมาย แต่ก็ยังไม่สายเกินไปสำหรับคนที่ไม่ยอมละทิ้งความฝัน เขาใช้เวลา 6 ปีที่ผ่านพ้นช่วงเกือบจะถอดใจกับวงการฟุตบอลจนก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูระดับโลกได้น่าอัศจรรย์ “เมื่อไหร่ที่มีการพูดถึงเรื่องนี้ มันทำให้ผมได้ตระหนักถึงเส้นทางในอาชีพของผม มันคือความจริงที่ว่าเรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อมาก! ผู้คนชอบพูดว่าการทำงานหนักจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และมันก็จริง ผมทำงานหนักมาก ๆ ผมยอมรับในเรื่องนี้ ผมเคยอยู่ที่มาร์กเซย, แร็งส์, แรนส์ และตอนนี้คือเชลซี มันมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะเติบโตขึ้นไปอีกขึ้นครับ” Edouard Mendy ให้สัมภาษณ์กับสโมสรเชลซีไว้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2020 จุดเริ่มต้นที่เกือบกลายเป็นจุดจบ Mendy เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับทีมเยาวชน เลอ อาฟร์ ด้วยวัย 13 ปี ก่อนจะย้ายไปสโมสร ซีเอส มูนิซิปัล เลอ อาฟ และย้ายเข้าสู่ทีมฟุตบอลระดับซีเนียร์กับทีมเฌอบัว ในปี 2011 ซึ่งเป็นทีมที่อยู่ในลีก The Championnat National
แค่เป็นคนเหงามันก็โคตรเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งพออยู่แล้ว ยิ่งเราเหงามากเราก็ยิ่งมักจะตั้งคำถามล้อกับความว้าเหว่ตัวเองมากขึ้นว่า เฮ้ย นี่กูจะเหงาจนตายจากโลกนี้ไปเลยได้หรือเปล่าวะ? แม้จะเป็นคำถามที่ถามตัวเองระหว่างสูบบุหรี่เล่น ๆ มวน สองมวน ไว้ตลกร้ายกับตัวเองเบา ๆ แต่ใครจะรู้ว่าคำถามนี้มันจริงจังขึ้นมา “เฮ้ย นี่กูเหงาจนตายจากโลกนี้ไปเลยได้หรือเปล่าวะ?” คำตอบคือ ใช่ เรามีความเสี่ยงทางสุขภาพได้จริง ๆ จากความเหงา เพราะความเหงาทำร้ายสุขภาพได้เท่า ๆ กับการสูบบุหรี่วันละ 15 มวน! บอกเลยว่าประเด็นเรื่องความเหงาทำร้ายมนุษย์ได้ ไม่ได้เป็นแค่ประเด็นทางจิตวิทยาอีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นประเด็นปัญหาทางการแพทย์ที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก โดยทศวรรษที่ผ่านมาทั้งบรรดานักวิจัยทั้งหลายก็แห่กันมาศึกษาเรื่องความเหงาและความโดดเดี่ยวทางสังคมที่มีผลกระทบเชิงลึกต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต และการตายของมนุษย์ อย่าเพิ่งช็อคจนหมดลมหายใจไปตอนนี้ เพราะนอกจากเราจะเป็นคนเหงาแล้วเรายังเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ไวกว่าคนไม่เหงาอีกด้วย (บอกแล้วอย่าเพิ่งช็อคตาย เดี๋ยวก็ได้ไปไวกว่าคนไม่เหงาแล้ว ) งานวิจัยเกี่ยวกับความเหงาที่ UNLOCKMEN จะเอามาพูดถึงวันนี้คืองานวิจัยจาก Brigham Young University ที่เขาไม่ได้ศึกษาแบบไก่กา แต่ศึกษายาวนานกว่าอายุคนเหงาบางคนเสียอีก เพราะเขาศึกษาเป็นเวลากว่า 34 ปี โดยศึกษาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 1980 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2014 ผลการศึกษาก็ออกมาว่าความเหงานี่แม่งอันตรายกว่าที่คิดเพราะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงสุดถึง 60% แถมความเหงายังอาจเป็นปัจจัยทางสุขภาพที่สำคัญยิ่งกว่าการสูบบุหรี่ 15 มวนต่อวัน
คงไม่มีใครหน้าไหนชอบหรืออยากพบเจอกับอารมณ์ “โกรธ” ไม่ว่าจะเป็นการโดนเหวี่ยงโวยวายจากอารมณ์โกรธของผู้อื่น หรือแม้กระทั่งยามที่อารมณ์โกรธก่อตัวขึ้นในจิตใจของเราเอง ซึ่ง “Short Fuse” คือคำที่ใช้เรียกเมื่อมนุษย์ไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกด้านลบภายในตัวเองได้ และอาจสร้างผลลัพธ์ทางลบกับตัวเราโดยไม่รู้ตัว แต่ทราบหรือไม่ว่าพลังงานด้านลบของอารมณ์โกรธ ก็มีประโยชน์ในทางบวกเช่นกัน หากรู้จักใช้อย่างถูกวิธี แถมยังเป็นเครื่องกระตุ้นให้โหมดเลือดร้อนของเรา แปรเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อสร้างสรรค์อะไรเจ๋ง ๆ ให้กับตัวเองได้อีกด้วย ด้านบวกที่ซ่อนอยู่ ในช่วงเวลาแห่งความโกรธ เราพบเจอความโกรธได้จากสัตว์บนโลกทุกชนิดรวมทั้งมนุษย์ เพราะนั่นคือสัญชาตญาณ “เอาตัวรอด” ตามธรรมชาติในการตอบสนองความต้องการมีชีวิตอยู่ เมื่อถูกข่มขู่หรือปองร้ายจากปัจจัยรอบตัว นักวิจัยชื่อ Jenifer Lerner และ Dacher Keltner ได้ศึกษาผลกระทบจากความโกรธ พบว่าในระหว่างที่มนุษย์กำลังโกรธอยู่นั้นจะมีความรู้สึกอย่างนึงที่โดดเด่นขึ้นมา นั่นก็คือ “ความกล้าได้กล้าเสีย” ความรู้สึกอยากลองเสี่ยงเช่นนี้ถือเป็นเรื่องดีที่จะสามารถนำมาใช้เป็นแรงผลักดันชีวิตได้ ความลับในการใช้ความโกรธทางบวก ทักษะที่ควรลองฝึกฝนตัวเองหากต้องการใช้งานพลังด้านบวกจากความโกรธคือ ควรเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเอง ไม่ใช่ภายนอก ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเราขับรถออกไปทำงานในตอนเช้า แต่กลับพบว่าบนถนนมีรถติด ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิดหรือโมโห ซึ่งปกติคนเรามักจะโทษปัจจัยภายนอกว่าเป็นสาเหตุ เช่น คนอื่นขับรถแย่ทำให้รถติด จำนวนรถยนต์มีมากเกินไปทำให้รถติด การบริการจราจรที่ห่วยแตกทำให้รถติด แต่การเปลี่ยนแปลงจากภายในคือ เมื่อโกรธ ให้สำรวจที่ตัวเองก่อนว่าเราคือต้นเหตุหรือไม่ เช่น เราตื่นสาย จึงออกมาทำงานช้าเกินไป จนต้องเจอกับรถติด ทำให้มีแรงจูงใจเพื่อพัฒนาตัวเองไปในทางดีขึ้น เพื่อการตื่นเช้าและขับรถในขณะที่การจราจรยังไม่โหดร้าย หรือเราโกรธ ที่เพื่อนยืมเงินเราแล้วไม่คืน
ยุคนี้ชื่อของ Ronaldo อาจทำให้หลายคนนึกถึง Cristiano Ronaldo กองหน้าชาวโปรตุเกสและสโมสร Manchester United แต่หากย้อนไปในความทรงจำของคอฟุตบอลในยุค 90’s ทุกคนจะต้องนึกถึง Ronaldo “R9” สุดยอดกองหน้าทีมชาติบราซิลเจ้าของฉายา “The Phenomenon” (ปรากฏการณ์) อย่างแน่นอน แม้ชื่อเสียงของ Ronaldo จะถูกยกย่องในวงการฟุตบอลไปทั่วโลก แต่อุปสรรคหลาย ๆ อย่างก็ทำให้เจ้าตัวต้องพบกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บที่เล่นงานจนทำให้เราไม่ได้เห็นฝีเท้าของเขาไปนานนับปี รวมไปถึงเรื่องของน้ำหนักตัวที่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวถึงต้องตัดสินใจยุติการค้าแข้งไวกว่าที่ใครคาดคิดเอาไว้ ทิ้งการเรียนมาลงถนนเพื่อเตะฟุตบอล Ronaldo Luis Nazario de Lima ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 18 กันยายน 1976 ณ กรุงริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ชีวิตของเขาผูกพันกับลูกฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ๆ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดสำหรับคนบราซิล เพราะบางคนเกิดมาก็ได้รับของขวัญเป็นลูกฟุตบอลแล้ว รวมไปถึงคนส่วนใหญ่ในประเทศเชื่อว่ากีฬาชนิดนี้จะทำให้พวกเขาหนีออกจากความยากจนซึ่งเป็นปัญหาของประชากรส่วนใหญ่ไปได้ อย่างไรก็ตามครอบครัวของ Ronaldo ไม่ได้ยากจนขนาดนั้น และสามารถส่งเขาเรียนหนังสือได้อย่างสบาย ๆ แต่ตอนที่ Ronaldo มีอายุได้ 11
ใครคือนักเต้นที่ดังที่สุดในประเทศไทย? อาจจะเป็นคำถามที่ตอบได้ยาก แต่ถ้าถามว่าใครคือนักเต้นที่อยู่ในระดับแถวหน้าของโลก รับรองว่าเราจะต้องเห็นชื่อ ‘Les Twins’ สองพี่น้อง duo นักเต้นจากฝรั่งเศสเจ้าแห่ง new-style hip-hop dancing ปรากฎอยู่ในระดับหัวแถวแน่นอน “Les Twins” คือชื่อทีมสุดขลังระดับ Icon ของวงการ Street Dancers ที่โด่งดังทะลุไปถึงในวงการ Design และ Entertainment ทั่วโลก ประกอบด้วยสองพี่น้องฝาแฝดชาวฝรั่งเศส Laurent และ Larry Bourgeois aka “Lil Beast” and “Ca Blaze” คู่หูที่ปัจจุบันคำว่านักเต้นอาจจะน้อยเกินไป เราขอเรียกว่าเป็น “Urban Movement Creators” ศิลปินที่สามารถเปลี่ยนทุกสิ่งรอบตัวให้กลายเป็นการเคลื่อนไหวที่ฉีกกรอบความสร้างสรรค์ได้อย่างไร้ขีดจำกัดจะเหมาะสมกว่า Laurent และ Larry Bourgeois สองนักเต้นฝาแฝด Les Twins เกิดในปี 1988 และเติบโตในเมืองทางตอนเหนือของปารีส พวกเขาไม่เคยเข้าคอร์สเรียนเต้นอย่างจริงจังมาก่อนเลย แต่ใช้วิธีเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการสังเกตนักเต้นคนอื่น
ทุกวันนี้ เรื่องราวของเทคโนโลยีบล็อกเชน, เหรียญคริปโตต่าง ๆ นา ๆ ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทกับชีวิตผู้คนทั่วไปมากขึ้น รวมไปถึงการซื้อขายผลงานศิลปะในรูปแบบของ NFT (Non-Fungible Token) ที่ก่อให้เกิดศิลปินหน้าใหม่ขึ้นมากมาย ด้วยความเปิดกว้างของตลาด ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร จะสร้างงานแนวไหน ใช้เทคนิคอะไรยากง่ายไม่เกี่ยง ขอแค่เหล่านักสะสม หรือนักลงทุนถูกใจก็มีสิทธิ์ปล่อยผลงานออกไปในราคางาม และท่ามกลางศิลปินจำนวนมากที่เริ่มเข้ามาชิมลางกับการสร้างงาน NFT หนึ่งในนั้นยังมีชายที่ชื่อว่า ‘วีระชัย ดวงพลา’ หรือที่หลายคนรู้จักกันดีในนาม ‘THE DUANG (เดอะ ดวง)’ นักวาดการ์ตูนชาวไทย ที่มีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา กับผลงานการ์ตูนรวมเล่มฮิต ๆ และงานวาดภาพประกอบเจ๋ง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเคยคว้ารางวัลใหญ่อย่าง Silver Award จากเวทีประกวดรางวัลการ์ตูนนานาชาติ ที่ประเทศญี่ปุ่น มาแล้ว แต่อะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้หันมาตัดสินใจก้าวเข้าสู่โลก NFT แม้จะต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งในตลาดซึ่งชื่อเสียงที่สั่งสมมาในโลกจริง ไม่อาจการันตีว่างานของคุณจะขายได้ วันนี้เรามาพบคำตอบเหล่านั้นจากปากของ ‘THE DUANG – วีระชัย ดวงพลา’ ไปพร้อมกัน ก่อนจะเป็น THE DUANG ก่อนจะไปถึงเรื่องราวจุดเริ่มต้นในวงการ NFT