หลายคน รู้จักเขาจากในฐานะผู้เปิดกระแสดนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ในยุคที่ Britpop ครองเมือง หลายคน คุ้นเคยในฐานะ Virtual Band สุดเท่ Gorillaz และหลายคนจดจำเขาในบทบาทของเจ้าพ่อโปรเจกต์ที่สร้างงานหลากสไตล์หลายรูปแบบที่นับไม่หวาดไม่ไหว แน่นอนว่าคำว่า “ดนตรีในหัวใจ” อาจจะเป็นคำที่ดูแสนเชย แต่สำหรับ Damon Albarn แล้ว กว่า 30 ปี ในวงการดนตรีแล้ว ไม่มีคำไหนจะเหมาะสมเท่ากับคำๆนี้แล้ว Blur ผู้เปิดศักราชใหม่แห่งดนตรี Britpop สำหรับแฟน ๆ ยุค 90s แฟนเพลงร็อคหลายคน ไม่มีใครไม่รู้จักวง Blur หนึ่งในวงดนตรีที่เปิดศักราชแห่งยุคสมัยของ Britpop Era ให้กลายเป็นกระแสหลักของโลก ด้วยการหยิบจับอัตลักษณ์ของชาวอังกฤษในซาวด์ผู้ดีสุดเนี๊ยบ ผสมผสานกับการขี้แซะและประชดประชัน จนทำให้แนวดนตรีนี้สามารถยึดหัวหาดของกระแสให้กับนักฟังเพลง และทำให้วงการดนตรีอังกฤษคึกคักเป็นอย่างมากในยุคนั้น แต่มันไม่ง่ายเลยกว่าจะถึงจุด ๆ นั้น เขาและเพื่อนพ้องวง Blur ต่างดิ้นรนขวนขวายในการสร้างวงดนตรี กว่าจะเป็นที่จดจำในวงกว้างนั้นยากลำบากมาก Damon ร่วมกับเพื่อนพ้องทำวง Blur ในช่วงปลายยุค ’80s กับ
ตอนนี้ วลี “จริงๆแล้ว ฉันเป็นประธานบริษัท” ดูจะฮิตในโลกโซเชียลเป็นพิเศษ ซึ่งในวงการดนตรี มีศิลปินหลายคนที่นอกจากเป็นนักร้องสุดฮอตรุ่นใหญ่ของวงการแล้ว เขาและเธอเหล่านี้ยังควบตำแหน่งประธานค่ายเพลง ผลักดันและต่อยอดศิลปินรุ่นใหม่ให้โดดเด่นในวงการเพิ่มขึ้นไปอีก มาดูกันว่า มีใครบ้างในวงการ ที่สร้างชื่อในฐานะเจ้าของค่ายเพลงกัน แล้วคุณจะอึ้งถึงศักยภาพที่พวกเขามีอย่างเหลือเชื่อ Madonna – Maverick ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80s Madonna เจ๊ใหญ่แห่งวงการพ็อพ รู้สึกอึดอัดที่การ Performance อย่างโจ้งแจ้งของเธอนั้นถูกปิดกั้นจากค่ายเพลงที่เธอสังกัด ปี 1992 เธอจึงจัดการค่ายเพลงของตัวเองเสียเลย เพื่อสร้างอิสระในการทำเพลง รวมไปถึงภาพลักษณ์อันแสน sexy ของเธอ โดยชื่อ Maverick นั้นมาจากการรวมตัวหุ้นส่วนทั้ง 3 คน (ซึ่ง Ma นั้นก็มาจากชื่อ Madonna ของเธอนั่นเอง) โดยผลงานชิ้นแรกที่ออกมานั่นก็คืออัลบั้ม Erotica (1992) อัลบั้มสุดอื้อฉาวที่ออกพร้อมหนังสือภาพ Sex อันลือลั่นนั่นเอง และผลงานของศิลปินที่สร้างชื่อมากๆของค่าย Maverick ก็คือ Alanis Morissette ศิลปิน Alternative Rock ที่ฮอตสุดในยุค
มาทำความรู้จักกับ Alex Turner หัวหอกวงลิงซน ที่เขาว่ากันว่าเป็นอัจฉริยะของการเขียนเพลง
เสียงเพลงนอกจากจะมอบความบันเทิงให้กับผู้ฟังแล้ว แต่ในหลาย ๆ ครั้งมันก็เป็นข้อความของความรู้สึกจากภายใน หรือแม้กระทั่งเป็นการเรียกร้องอะไรบางอย่างผ่านเนื้อหาที่สื่อสารออกมาเช่นกัน หนี่งในเพลงเหล่านั้นคือ “Fuck Tha Police” เพลงสุดอื้อฉาวแห่งยุค 80’s จากคณะโอลด์สคูล ฮิพฮอพ ในตำนานนามว่า N.W.A. บทเพลงต่อต้านการกดขี่ข่มเหงคนผิวสี ท่อนบีท, เสียงเทิร์นเทเบิ้ล และการพ่นท่อนแร็ป คือส่วนผสมทางดนตรีที่ผลิตออกมาจาก 6 สมาชิกตัวจี๊ดของ N.W.A. ประกอบไปด้วย Eazy-E, Ice Cube, Dr.Dre, Mc Ren, DJ Yella และ Arabian Prince จนออกมาเป็นอัลบั้ม Straight Outta Compton ในปี 1988 พวกเขาคือกลุ่มเด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยอารมณ์สุดเดือดดาล มีทั้งความสดและความเรียล กล้าที่จะ Express ความคิดเห็นบางอย่างออกมาแบบไม่ต้องแยแสสนใจหรือเกรงกลัวอำนาจใด ๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในเพลง “Fuck The Police” ที่พวกเขาได้ถ่ายทอดความเก็บกดจากการถูกกดขี่และความอยุติธรรมจากบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงเพราะว่าพวกเขาเป็น “คนผิวสี” ทุก
หากจะพูดถึงเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ หลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่แท้จริงแล้วเมืองแห่งนี้ได้ผลิตศิลปินสุดเจ๋งมาประดับวงการดนตรีมากมาย และหลาย ๆ วงก็เข้าขั้นระดับตำนานไปแล้ว จนถึงขนาดมีการใช้คำจำกัดความวงดนตรีที่มาจากเมืองนี้ว่า “แมดเชสเตอร์ (Madchester)” Unlockmen ขอพาทุกคนไปท่องโลกของเสียงกีตาร์แตกพร่าและความเกรี้ยวกราดจาก 5 วงร็อกยุค 80’s และ 90’s สุดเจ๋งจากเมืองแมนเชสเตอร์ 1. OASIS ชื่อของ Oasis คงไม่มีใครไม่รู้จัก วงร็อกที่นำโดยสองพี่น้อง Gallagher ได้แก่ “Liam” และ “Noel” ผู้มีฝีปากกล้าแกร่งเกินจะจินตนาการ แต่ความปากดีของพวกเขาคงจะส่งให้วงโด่งดังจนก้าวข้ามมาเป็นระดับตำนานไม่ได้หากตัวดนตรีมันไม่เจ๋งพอ Oasis สร้างปรากฎการณ์มากมายให้กับวงการดนตรีบริตป๊อปในยุค 90’s ทันทีที่พวกเขาวางจำหน่ายอัลบั้มแรก “Definitely Maybe” (ปี 1994) ก็สามารถทุบสถิติอัลบั้มเดบิวต์ที่ขายได้รวดเร็วมากที่สุดในประเทศอังกฤษ รวมไปถึงการได้แสดงคอนเสิร์ต 2 วัน 2 คืน ที่ Knebworth ท่ามกลางคนดูรวมกันมากกว่า 250,000 คน
ช่วงเวลานี้คงไม่มีข่าวไหนสะเทือนใจและช็อคใจเท่ากับเหตุการณ์การเหยียบกันตายในงานเทศกาลดนตรี Astroworld Festival ในช่วงเวลาที่ Travis Scott กำลังโชว์อย่างเมามันส์ จนนำไปสู่การเสียชีวิตถึง 10 ราย และบาดเจ็บไปอีกเป็นจำนวนมาก สังเวยความหละหลวมของทีมงานและนำไปสู่การสอบสวน และทำให้ Travis Scott ตกเป็นจำเลยของสังคมในทันที แต่เหตุการณ์นี้ ไม่ใช่คอนเสิร์ตครั้งแรกที่เกิดโศกนาฏกรรมอันแสนโหดร้าย เรามาย้อนดูกันว่า เกิดเหตุสลดอะไรบ้างที่ทำให้งานคอนเสิร์ตกลายเป็นฝันร้ายเพียงชั่วข้ามคืน เรามาไล่ระดับจากการเสียชีวิตหลักสิบสู่หลักร้อยว่าสาเหตุสำคัญของโศกนาฏกรรมเหล่านั้นเกิดขึ้นจากอะไร 10. Roskilde Festival June 30, 2000 — Roskilde, Denmark ผู้เสียชีวิต: 9 ราย สาเหตุ: เหยียบกันตาย ความเมามันในเทศกาลดนตรีชื่อดังของประเทศเดนมาร์ค Roskilde Festival กลับกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของผู้ชมทั้ง 9 คน หลังจากที่วงเฮดไลน์อย่าง Lou Reed, Iron Maiden และ Oasis ได้เล่นเสร็จสิ้นไปแล้ว ก็ถึงเวลาของราชากรันจ์ในตำนานอย่าง Pearl Jam ขึ้นวาดลวดลายบนเวที Orange Stage
ดุลยเกียรติ เลิศสุวรรณกุล หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ “เต๋า” นักร้องนำวง Sweet Mullet ศิลปินที่มีเอกลักษณ์ชัดเจนมากที่สุดวงหนึ่งของวงการดนตรีไทย ฝากผลงานเพลงดังเอาไว้มากมายไม่วาจะเป็น ‘ตอบ’, ‘เพลงของคนโง่’, ‘หลับข้ามวัน’, ‘สภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน’, ‘ภาพติดตา’ และ ‘พลังแสงอาทิตย์’ รวมไปถึงผ่านการขึ้นเวทีในราชมังคลากีฬาสถานกับเทศกาลดนตรี G19 ท่ามกลางคนดูนับหมื่นมาแล้ว แต่ภาพของความสำเร็จที่ดูสวยงาม แท้จริงแล้วกว่าที่จะออกมาให้ทุกคนได้เห็น มันต้องผ่านทั้งความอดทน การต่อสู้ และความเหน็ดเหนื่อยมาอย่างมากมาย ทำให้ชีวิตต้องเจอกับความท้าทายไต่เย้ยนรกที่แวะเข้ามาทักทายตลอดไม่เว้นแต่ละวัน ชีวิตของเต๋าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง Unlockmen มีคำตอบให้กับบทสัมภาษณ์ในครั้งนี้ ชีวิตวัยเด็ก เน้นเล่นไม่เน้นเรียน “ผมก็เป็นเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่สนใจเรียน วัน ๆ เอาแต่สนใจเรื่องเล่นมากกว่า เช่น พวกการ์ตูน เกม จำได้ว่าเคยสอบได้ที่โหล่ของห้องด้วย เคยโดนเชิญผู้ปกครองมาคุยว่าทำไมถึงไม่ตั้งใจเรียน ผมชอบนั่งคุยกับเพื่อนครับ ไม่ได้สนใจคุณครูที่อยู่ตรงหน้าเลย หรือต่อให้นั่งฟัง ผมก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ พอว่างก็วาดรูปในสมุดเล่น ตอนมัธยมเกือบเรียนไม่จบ ผ่านไปด้วยคะแนนที่แบบ คือถ้าเปิดสมุดพกมาจะเห็นชัดเลย แต่พอช่วงที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย มันตรงกับช่วงที่บ้านมีปัญหาทางการเงิน ผมก็เลยเริ่มรู้สึกว่าไม่ได้แล้วนะ เราเรียนที่มหาวิทยาลัยสยาม เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ค่าหน่วยกิตมันแพงมาก ผมก็เลยคิดว่าเราต้องตั้งใจเรียนแล้วนะ
สาวช้ำรักผู้มูฟออนความชอกช้ำเป็นวงกลม เปลี่ยนประสบการณ์เศร้าหมองให้กลายเป็นบทเพลงสุดฮิต ULM Playlist เดือนนี้มาทำความรู้จักกับ Adele ผ่าน 10 บทเพลงที่เป็นตัวตนของเธอ เพื่อต้อนรับอัลบั้มใหม่ชุดที่ 4 “30” ที่จะให้ฟังกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ Hometown Glory Round my hometown Memories are fresh Round my hometown Ooh the people I’ve met Are the wonders of my world Are the wonders of my world Are the wonders of this world Are the wonders of my world บทเพลงประเดิมอาชีพการเป็นนักร้องของ Adele
เสียงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่บ่งบอกความรู้สึกของการสื่อสาร และเชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากได้ยินเสียงที่นุ่มนวลน่าฟัง ซึ่งวันนี้ไม่ใช่แค่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับศิลปินนักร้อง เพราะแม้แต่ YouTuber, Blogger, Content Creator, Podcaster, Streamer รวมไปถึงผู้จัดรายการต่าง ๆ เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ไมค์โครโฟนจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ ตัวเลือกของศิลปินระดับโลก SHURE SM7B คือตัวจบที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี เป็นตัวเลือกที่ศิลปินระดับโลกหลากหลายคนเลือกใช้ หนึ่งในนั้นคือ Michael Jackson นักร้องเจ้าของฉายา “ราชาเพลงป๊อป” เป็นผู้เดบิวต์เจ้าไมค์ตัวนี้ในการบันทึกเสียงร้องในอัลบั้ม “Thriller” แม้ระยะเวลาจะผ่านไปนานกว่าเกือบ 40 ปี แต่ความนิยมกลับไม่ได้ถดถอยหลังตามไปด้วย ยังคงมีศิลปินระดับโลกมากมายเลือกใช้งาน SM7B มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Jonh Mayer, Dave Grohl จากวง Foo Fighter, Mike Shinoda จากวง Linkin Park, Adam Levine จากวง Maroon 5, Justin
มาร่วมแจมกันอีกครั้งสำหรับ ซิงเกิ้ลสุดเดือน Lit ( ลิธ ) ของฮิปฮอปตัวจี๊ด อย่างโค้ช Twopee Southside ( ทูพี เซาท์ไซด์ ) จากรายการ เดอะ แรปเปอร์ ที่หนนี้ ได้รุ่นพี่เจน 1 อย่าง KH ขันเงิน เนื้อนวล มาลงมือโปรดิวซ์ ให้อีกครั้ง และ ร่วมฟีเจอริ่งในเพลงนี้อีกด้วย นอกจากนั้น ยังได้รุ่นน้องสุดฮอต แรปเปอร์ชื่อดัง แห่งเมืองขอนแก่น เจ้าของตำแหน่ง ฮิปฮอปเจน 3 ระดับหัวแถว อย่าง Fiixd ( ฟิ๊กซ์ ) ที่ได้กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง รวมทั้ง แรปเปอร์ ในตำนานที่ เด็กใต้ ต่างรู้จักชื่อเสียงของเค้าเป็นอย่างดี อย่าง บังซี๊ด “Youngzees”( ยังซี๊ด ) หนึ่งในสมาชิก แกงค์ เซาท์ไซด์