The World Drink Award ถือเป็นรางวัลระดับสากลที่คัดสรรสุดยอดเครื่องดื่มจากรอบโลกด้วยรสชาติ วัตถุดิบชั้นนำที่ได้จัดขึ้นในทุกปี โดยในปีนี้ เบียร์สัญชาติไทยอย่าง “ช้าง” ได้รับคัดเลือกเป็นที่ยอมรับในระดับสากล คว้ารางวัล Thailand Country Winner ประเภทเบียร์ลาเกอร์ (Lager Beer) สไตล์ Helles / Münchner จากเวทีการประกวดเบียร์ระดับโลก World Beer Awards 2017 ที่จัดขึ้นโดย TheDrinksReport.com เว็ปไซต์ที่ให้ข้อมูลสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มอันดับ 1 ของโลก ถือเป็นเวทีการประกวดเบียร์ระดับนานาชาติ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน การประกวดแบ่งเป็น 8 ประเภทหลักของเบียร์ ได้แก่ Dark Beer, Flavored Beer, Lager Beer, Pale Beer, Sour Beer, Specialty Beer, Stout & Porter และ
“So you can keep me Inside the pocket of your ripped jeans…” ท่อนคุ้นหูจากเพลง Photograph หนึ่งในเพลงฮิตของพ่อหนุ่มผมแดง Ed Sheeran ที่สื่อความหมายสุดลึกซึ้งว่าภาพถ่ายคืออีกหนึ่งรูปแบบของความทรงจำ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาด ๆ เพื่อนำมาระลึกถึงกันได้เสมอ แต่นอกเหนือจากภาพถ่าย อีกสิ่งหนึ่งที่เรายอมรับว่า Ed Sheeran สามารถเก็บรักษาเอาไว้ในกระเป๋าได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่เขาใช้ความสามารถหามาได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในฐานะของศิลปินเจ้าของรางวัลแกรมมี่ เจ้าของเพลงฮิตมากมายจากสตูดิโออัลบั้มทั้ง 3 ชุด และทัวร์คอนเสิร์ตอีกเพียบ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับเขาในปีที่แล้วนับเป็นเงินเหนาะ ๆ 33.5 ล้านเหรียญสหรัฐ คนวงนอกอย่างพวกเราคงคิดว่า Ed Sheeran ต้องมีชีวิตที่อู้ฟู้ ใช้จ่ายเงินกระจุยกระจาย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดคาดสักเท่าไหร่ กับการที่ Ed เคยให้รางวัลตัวเองด้วยการใช้เงินไปกับการสร้าง Bar ส่วนตัวในบ้านราคาหลายล้านของเขา รวมถึงควักเงิน 2 ล้านเหรียญซื้อฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เพื่อให้ตัวเองได้พักผ่อนจากงานเพลงด้วยวิถีชีวิตหนุ่มชาวไร่ แต่ใช่ว่าคนดังอย่าง Ed
ไม่ว่าองค์กรเล็กใหญ่หรือใครก็ล้วนเคยผ่านวิกฤตดราม่าจากคำพูดกันแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าคำพูดจะออกมาด้วยความตั้งใจ ไม่ตั้งใจ หรือคนตีความผิดไปเองจนงานเข้าเรื่องราวบานปลาย แต่เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเรารับมือและจัดการกับวิกฤตดราม่าจากคำพูดครั้งนั้นได้อย่างไรบ้างต่างหาก UNLOCKMEN จึงเล็งเห็นแบบชัดแจ้งเต็มตาว่าในโลกที่โซเชียลมีเดียถูกสุมไฟดราม่าให้คุกรุ่นได้ง่าย เราทุกคนล้วนต้องการหาทางลงให้กับดราม่าที่เกิดขึ้นอย่างเท่ ๆ ซึ่งเรารับรองว่า 5 วิธีนี้ใช้ได้ทั้งองค์กรธุรกิจและคนธรรมดา 1.รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง การโต้ตอบหรือจัดการวิกฤติที่เกิดขึ้นแบบรวดเร็วทันใจมันก็ดูเหมือนจะดีในโลกที่ทุกอย่างวิ่งไวในโลกออนไลน์ไปเสียหมดอย่างนี้ แต่มันจะดีกว่าถ้าเราได้นั่งนิ่ง ๆ ตรวจสอบสถานการณ์ทั้งหมดให้ถี่ถ้วนในเวลาที่เร็วที่สุดแต่ก็รอบคอบที่สุดว่าวิกฤตเกิดจากอะไร กรณีที่บุกเดี่ยวมาแต่แรก ก็นิ่งไว้ก่อนดีที่สุด ยิ่งตอบโต้ในช่องทางออนไลน์ ทุกอย่างจะมีแต่แย่ลง ๆ ในขณะที่ถ้าเป็นระดับองค์กรก็ควรบอกให้ทุกคนนิ่งเข้าไว้ รู้ว่าหัวร้อนแต่อย่าให้ใครไปโต้ตอบในช่องทางออนไลน์เด็ดขาด ควรปล่อยให้ฝ่ายสื่อสารองค์กรลุยเท่านั้น 2.รวมทีมอเวนเจอร์ซะ! ซุปเปอร์ฮีโร่เขายังไม่สู้คนเดียว เพราะคนเดียวหัวหาย หลายคนมีแต่ดี หลังจากวิกฤตการณ์เกิดขึ้นแล้ว ให้รีบรวบรวมทีมผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับองค์กรทั้งหมดให้เร็วที่สุดเพื่อช่วยกันปรึกษา ขอความคิดเห็นหลากหลายแบบในการรับมือ หรือร่างข้อความที่จะสื่อสารกลับไป ไม่ว่าจะเป็นการขอโทษ การชี้แจงในส่วนของเรา หรือการโต้ตอบในกรณีที่จำเป็น นอกจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในองค์กรแล้ว ควรเชิญผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่กำลังดราม่านั้นมาด้วย แต่ถ้าเป็นกรณีที่บุกเดี่ยวก่อดราม่าคนเดียวมาแต่แรก ก็อาจปรึกษาเพื่อน คนใกล้ตัว หรือผู้ใหญ่ที่เราเชื่อถือควบคู่กันไปแทน 3.อย่ารีบด่วนสรุป ท่องจำให้ขึ้นใจว่าทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ใช่อารมณ์ความรู้สึก! โดยเฉพาะเมื่อทุกคนกำลังหัวร้อน คันไม้คันมืออยากโต้ตอบ แต่ข้อสรุปแรก ๆ ที่เราได้และวางแผนจะจัดการมักจะผิด (ไม่เสมอไป แต่บ่อยครั้ง) ดังนั้นคิดให้ครบสองสามรอบก่อนตัดสินใจลงมือชี้แจงอะไร 4.ให้คนคนเดียวออกมาพูด
“อยากรวย” คิดว่าคงไม่มีใครปฏิเสธกับคำคำนี้ แต่จะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างใจฝัน ถ้าไม่เริ่มวางแผนอนาคตการเงิน และลงมือทำตั้งแต่วันนี้ Robert T.Kiyosaki เจ้าของหนังสือพ่อรวยสอนลูกได้กล่าวไว้ว่า If you do not know how to care for money, money will stay away from you. ถ้าคุณไม่รู้จักรักษาเงินของคุณ เงินจะไม่อยู่กับคุณ ฟังแบบนี้แล้วทีม UNLOCKMEN จึงไม่พลาดที่จะหาวิธีปลุกพลังในตัวคุณขึ้นมาใส่ใจการวางแผนการเงิน การลงทุนตั้งแต่วันนี้ ทีมงานมีโอกาสได้ไปสัมภาษณ์แชมป์สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ตลาดหุ้นไทย 2013 ที่โลดแล่นบนสังเวียนหุ้นมา 10 ปี ลงทุนตั้งต้นตั้งแต่หลักแสน จนถึงวันนี้ “หลักร้อยล้าน” คุณซัน กระทรวง จารุศิระ ปัจจุบันยังเป็นเจ้าของกิจการมากกว่า 10 บริษัท และหนึ่งในบริษัทที่หลายคนน่าจะพอคุ้นคือ SUPER TRADER REPUBLIC และเจ้าของโครงการ SUPER TRADER THAILAND รายการที่ค้นหาสุดยอด Trader แห่งประเทศไทย พูดได้ว่าคุณซันมีประสบการณ์โชกโชนมากมายในวงการตลาดหุ้นในประเทศไทยเลยทีเดียว
‘ความผิดพลาด’ เป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก ไม่ว่าจะในธุรกิจหรือในชีวิตจริง แม้ว่าเราจะพยายามหลีกเลี่ยงมันโดยตลอด แต่การทำธุรกิจหรือการลองทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อความเติบโตย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดข้อผิดพลาดที่เราคาดไม่ถึง ‘ความผิดพลาด’ไม่ใช่เรื่องของธุรกิจที่เพิ่งเริ่มเติบโตหรือคนตัวเล็ก ๆ อย่างเราเท่านั้น บริษัทน้ำดำยักษ์ใหญ่อย่างโค้กก็เคยผิดพลาดครั้งใหญ่โตมาแล้วเช่นกัน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1985 เมื่อโค้กอยากชนกับเป๊ปซี่และหวังจะได้รับชัยชนะ พวกเขาจึงได้ริเริ่มไอเดียสุดเด็ดขึ้น ทีมวิจัยการตลาดของโค้กได้สำรวจและพบว่า โค้กรสชาติใหม่ของพวกเขาถ้าออกมาครั้งนี้ต้องได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนเป๊ปซี่ต้องแพ้กระจุยกระจาย พวกเขาจึงสรรค์สร้างโค้กรสชาติใหม่ที่หวานกว่าเดิมออกมา จนถึงวันที่สินค้าถูกปล่อยออกไป ทีมงานบริษัทโค้กต่างก็รอผลลัพธ์อันน่าทึ่ง แต่ปรากฏว่ามันพังไม่เป็นท่า! ไม่ใช่แค่เอาชนะเป๊ปซี่ไม่ได้ แต่ผู้บริโภคต่างไม่พอใจเพราะโค้กที่ออกมามันหวานเกินไปสำหรับพวกเขา มีคนเพียงร้อยละ 13 เท่านั้นที่ชอบโค้กแบบใหม่ แถมลูกค้ายังรวมตัวกันแบนไม่ยอมกินโค้กจนกว่าจะได้โค้กที่เหมือนเดิมกลับมา ภายใต้วิกฤตครั้งนั้น บริษัทโค้กปล่อยให้โค้กตัวใหม่โลดแล่นได้เพียง 77 วัน แล้วกลับไปใช้รสชาติตามเดิม ก่อนจะค่อย ๆ ฟื้นตัวกลายเป็นบริษัทน้ำดำระดับโลกได้อย่างในปัจจุบัน บริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดโค้ก ยังเคยผิดพลาดและผ่านมันมาได้ วิธีเปลี่ยนข้อผิดพลาดให้กลายเป็นความสำเร็จคืออะไร? 1.รู้ว่าอะไรคือความผิดพลาด เราไม่มีวันแก้ไขอะไรได้สำเร็จถ้าไม่รู้ว่าความผิดพลาดของเราคืออะไร หรือมาจากตรงไหน ทันทีที่เกิดข้อผิดพลาด อย่ามัวฟูมฟาย แต่หาให้เจอให้ตรงจุดให้ได้ว่าข้อผิดพลาดคืออะไรกันแน่ จะได้มุ่งตรงไปยังข้อผิดพลาดได้อย่างทันท่วงที เหมือนที่บริษัทโค้กเห็นว่าโค้กของตัวเองนั้นผิดพลาดที่ความหวาน 2.รู้ว่าเกิดความผิดพลาดได้อย่างไร ถ้ารู้ว่าความผิดพลาดคืออะไรแล้ว อย่างต่อไปที่ต้องรู้คือมันเกิดความผิดพลาดนั้นได้อย่างไร เพื่อหาหนทางแก้ไขจากสาเหตุที่มันเกิดขึ้นได้ถูกจุด และไว้เป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดนี้ต่อไป 3.รับมือความผิดพลาดอย่างสงบ การฟูมฟาย หรือแม้แต่โกรธเกรี้ยวใส่กันในธุรกิจหรือวงเพื่อนฝูงกันเองเมื่อเกิดความผิดพลาดไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เราควรยอมรับว่าปัญหาเกิดขึ้นแล้วและช่วยกันหาวิธีการแก้ปัญหาร่วมกัน
ว่ากันว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้เปลี่ยนงานบ่อยกันเป็นว่าเล่น นอกเหนือจากความขี้เบื่อแล้ว เหตุผลเรื่องฐานเงินเดือนที่ขึ้นเอา ๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยนงานก็เป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงกันมาก แต่ UNLOCKMEN ขอเสนอว่าเราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนงานเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ตัวเองเสมอไป แต่มีวิธีตรงชัดแมน ๆ อย่างการขอขึ้นเงินเดือนด้วยตัวเองกันไปเลย! เพราะงานวิจัยชี้ว่ากว่าร้อยละ 70 ของคนที่กล้าขอขึ้นเงินเดือนนั้นประสบความสำเร็จได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นจริง ๆ 1.ทำการบ้าน ไม่ใช่อยู่ ๆ เรามีตัวเลขใหม่ที่อยากได้ในใจแล้วจะจบ เดินดุ่ม ๆ ไปคุยกับผู้มีอำนาจตัดสินใจแล้วขอเงินเดือนเพิ่มเสียดื้อ ๆ เราควรต้องทำการบ้านก่อนว่าตำแหน่งแบบเรานั้นเขาได้เงินเดือนกันอยู่เท่าไหร่ เรามีหน้าที่รับผิดชอบเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับตำแหน่งเดียวกันในที่ทำงานเดียวกัน หรือตำแหน่งเดียวกันในที่อื่น ๆ แล้วลองดูความเป็นไปได้กับตัวเลขในมือที่ตั้งใจไว้ดู 2.รู้คุณค่าของตัวเองที่มีต่อบริษัท แต่ความเป็นไปได้เรื่องจำนวนเงินเดือนที่เราต้องการเพิ่มก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตำแหน่งหน้าที่ของเราอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราทำงานอย่างมีคุณค่าให้กับที่ทำงานของเรามากแค่ไหน ผู้จัดการส่วนใหญ่เปิดเผยว่าพนักงานที่ทำงานที่สร้างคุณค่าให้บริษัทมากกว่าก็มีแนวโน้มที่เขาจะเพิ่มเงินเดือนให้มากกว่า รู้อย่างนี้แล้วก็ทบทวนตัวเองตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่าว่าอยากได้เงินเดือนเพอ่ม เราทำงานสร้างคุณค่าให้บริษัทเพิ่มแล้วหรือยัง? 3.รู้จังหวะเวลา จังหวะเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่มีตัวเลขในมือแล้วอยากเดินเข้าไปคุยเมื่อใดก็ได้ จังหวะที่คุณเพิ่งทำโปรเจกต์สำคัญเสร็จลุล่วงไปด้วยดีใหม่ ๆ หรือเพิ่งขายงานผ่านฉลุย หรือความสำเร็จใดก็ตามที่เป็นการสร้างคุณค่าให้กับบริษัทและหน้าที่ของคุณ เมื่อคุณทำมันได้ดี ก็รีบใช้โอกาสหลังจากนั้นในการขอปรับขึ้นเงินเดือนซะ เพราะมันมีแนวโน้มจะสำเร็จมากกว่าขอตอนที่คุณเพิ่งทำอะไรพังลงไม่เป็นท่า หรือไม่มีผลงานอะไรเลยแน่ ๆ 4.รุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง เหตุผลที่คนจำนวนมากเลือกจะลาออกจากงานเพื่อไปหวังเงินเดือนที่มากกว่ากับที่ทำงานแห่งใหม่นั้น เป็นเพราะความกลัว ความกลัวที่จะผิดหวัง ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องก้าวข้ามไปให้ได้ สงบนิ่งเข้าไว้ และคิดเสียว่านี่ก็ไม่ต่างจากการเจรจาต่อรองทั่วไป มีโอกาสสมหวัง
สำหรับคนรักสุขภาพ คุณคิดว่า “การออกกำลังกาย” นำคุณไปสู่อะไรบ้าง เราเชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงร่างกายที่แข็งแรง ใจที่สงบผ่อนคลาย การฝึกฝนอย่างมีวินัย สังคมเพื่อนใหม่ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายเช่นเดียวกันหรือแม้กระทั่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่เหมือนในภาพยนตร์เคยว่าไว้ แต่สำหรับผู้บริหาร Stadium One ทั้ง 4 ท่าน “การออกกำลังกาย” ทำให้พวกเขาได้พบกับ “ความฝันภายใต้จุดมุ่งหมายเดียวกัน” นั่นคือ การสร้างไลฟ์สไตล์ สปอร์ต คอมมูนิตี้แห่งแรกในประเทศไทย พื้นที่เพื่อให้คนรักการออกกำลังกายสามารถเข้าถึงสุขภาพที่ดี โดยยังทำกิจกรรมและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างครบวงจร นอกจากความชื่นชอบในการออกกำลังกายเหมือนกัน เคยพบกันที่งานวิ่ง และมีความฝันร่วมกัน ผู้บริหารทั้งสี่ยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น คุณสิทธิชัย ศรีสงวนสกุล (CEO) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารกล้องวงจรปิด ฟูจิโกะ รวมทั้ง บริษัทโลจิสติกส์อีกหลายแห่ง และ คุณถนอมเกียรติ สัมมาวุฒิชัย (กรรมการบริหาร) ผู้ดูแลธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าบริษัท เอฟเวอร์เอ็นจ์ จำกัด ซึ่งทั้งสองท่านนับเป็นผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจและสั่งสมประสบการณ์มานานกว่ายี่สิบปี ผนึกกำลังกับผู้บริหารรุ่นใหม่อย่าง คุณพงศ์วรรธน์ ติยะพรไชย (ผู้บริหารโครงการ) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านทางการตลาด และ คุณณัฐภัค รีกิจติศิริกุล (กรรมการบริหาร) ผู้ดูแลโครงสร้างและความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมและการกำกับดูแลโครงการ ฟังแล้วหลายคนคงเริ่มสนใจ Stadium
ปัจจุบันนี้เราเห็น Clip VDO มากมายไปหมด ตามเว็บไซต์ที่บอกว่า เป็น VDO สามารถสร้างแรงจูงใจ หรือ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณ แต่จะมีสักกี่ครั้งกันที่คุณจะเห็น VDO ที่ถูกสร้างมาเพื่อสร้างแรงจูงใจ หรือ สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Entrepreneurs โดยเฉพาะบ้าง? คำตอบก็คือ มีน้อยมาก จนอาจจะแทบจะไม่เห็นเลยด้วยซ้ำ แต่นั่นคือ สิ่งที่เรามองเห็นว่ามันจะเป็นประโยชน์ไม่ใช่น้อยเลย ถ้าหากมีใครสักคนรวมเอา VDO ดี ๆ ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าบรรดา Entrepreneurs ทั้งหลายเอาไว้ ให้ดูกันฟรี ๆ เพื่อจุดประกายในการทำงานกลับมาให้ไฟลุกโชนจนกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในชีวิตกันต่อไปในอนาคต และต่อไปนี้คือ VDO ที่สามารถสร้าง Motivation ให้กับเหล่า Entrepreneurs รวมไปถึงคนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี รับรองได้ว่า คุณจะได้รับทั้ง Inspiration และ Motivation ในการอยากที่จะก้าวไปสู่จุดที่เรียกได้ว่า ประสบความสำเร็จในชีวิตมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน 1#The Life of An Entrepreneur in
ในวันที่เราเริ่มคิดจะทำอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งของตัวเองสักอย่าง ภาพปลายทางในหัวของแต่ละคน UNLOCKMEN เชื่อว่าคงมองเห็นกันแต่ปลายทางของความสำเร็จกันอยู่แน่ ๆ แต่มันก็ไม่ผิดที่เราทุกคนจะฝัน เพราะความฝันนี่แหละ มักเป็นแรงผลักดันเราให้ก้าวต่อไป และความฝันทุกอย่าง… ผมว่ามัน “ต้องการการลงมือทำจริง” ถ้าเป็นการนับ 1 ใหม่หมด เราอาจต้องเริ่มต้นจากการทำอะไรคนเดียว ไม่มีหน้าที่ตายตัว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก ๆ, ธุรกิจหรือทีมเล็ก ๆ การหาคนมาเติมเต็มทุกตำแหน่งที่ต้องการอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำได้ทันทีเดี๋ยวนั้น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของงบประมาณหรือการหาคนมาร่วมหัวลงท้ายด้วยกันก็ตาม เราได้รวบรวม 8 ตัวช่วยการทำงานใช้ได้จริง คุณจะเป็น Freelance หรือบริษัทเล็กที่เพิ่งเริ่มต้น ๆ ก็สามารถนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ได้ดีกว่าเก่าได้ มาแนะนำกัน Evernote โปรแกรมพื้นฐานที่เราแนะนำว่าควรโหลดติดเครื่องไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ หลายคนอาจคิดว่าแค่การจดโน้ตไม่เห็นจำเป็นต้องโหลดเลย ตัวติดเครื่องที่ให้มาก็ดีอยู่แล้วนิ เราบอกเลยว่าดี ง่าย แต่ยังไม่สุด Evernote จะมาเติมเต็มความสามารถมากมายที่โน้ตทั่วไปทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์โน้ตของเราให้กับคนอื่น หรือจัดเก็บรูปภาพ, Task, แจ้งเตือน, ทำ Slide ไปจนถึงแยกหมวดหมู่ ได้อย่างอิสระง่ายได้ แถมแค่ตัวฟรีก็ใช้ได้เหลือ ๆ แล้ว รองรับการทำงานได้หลาย Platform พร้อมซิงค์ข้อมูลกันผ่านระบบ
ขอบคุณเทคโนโลยีและความยืดหยุ่นในปัจจุบันที่ทำให้เราสามารถทำงานจากที่บ้านได้ แม้การทำงานที่บ้านจะเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย แต่ถ้าสบายเกินไป เราอาจทำงานไม่เสร็จได้ นี่จึงเป็น 5 วิธีที่จะช่วยให้คุณทำงานอย่างมีประสิทธิภาพแม้จะอยู่ภายใต้บรรยากาศสุดสบายอย่างการทำงานที่บ้านก็ตาม 1.สบายได้ แต่ให้พอดี สิ่งที่ดีที่สุดของการได้ทำงานอยู่ที่บ้านก็คือความสบาย สบายไปหมดตั้งแต่ได้อยู่ในพื้นที่ที่เราคุ้นเคย ได้สวมใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ไม่ต้องเป็นทางการมาก จะนั่งทำงาน นอนทำงานก็สบายไปหมดทุกสิ่งอย่าง ความสบายเป็นสิ่งที่ดีแต่ถ้ามากเกินไป แทนที่จะทำงานก็อาจจะกลายเป็นนอนกลิ้งไปกลิ้งมาได้ ดังนั้นจัดท่าทาง พื้นที่ของตัวเองให้สบายได้ แต่อย่าสบายเกินไปจนไม่เป็นอันทำงาน 2.จัดพื้นที่ให้เหมาะสม การทำงานที่บ้านเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย และสิ่งรบกวน ทั้ง ๆ ที่กำลังจะตั้งใจทำงานอยู่ดี ๆ หันไปเจอตู้เย็นที่เต็มไปด้วยของกินก็เสียสมาธิเสียแล้ว หรือหันไปเจอโทรทัศน์พร้อมกับจินตนาการถึงหนังเรื่องโปรดก็พร้อมจะปรี่เข้าไปหา สิ่งเหล่านี้ควรถูกกำจัดให้พ้นทางด้วยการหาโต๊ะทำงาน จัดบรรยากาศให้เหมาะแก่การทำงานที่ห่าง หรือให้สิ่งรบกวนอยู่พ้นสายตาออกไปหน่อย จะได้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับงานมากขึ้น 3.จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำ พอไม่ต้องเดินทางไปกลับจากที่ทำงาน เวลาที่มีเท่าเดิมก็ดูเหมือนมีเพิ่มจนมากมายแบบไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเรารู้สึกว่ามีเวลาเหลือมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งรู้สึกว่าเดี๋ยวค่อยทำนั่น เดี๋ยวค่อยทำนี่ก็ได้ ซึ่งสุดท้ายจะทำให้งานไม่เสร็จโดยไม่รู้ตัว หรือถ้าเสร็จก็เสร็จแบบไม่ทันเวลา ดังนั้นคุณควรจัดลำดับความสำคัญว่างานไหนที่ต้องทำเสร็จเป็นลำดับแรก ๆ และต้องเสร็จภายในเวลาเท่าไหร่ เป็นการกำหนดเดดไลน์ให้ตัวเอง 4.จัดเวลา ทำงานที่บ้านก็ยังแปลว่าทำงาน ถ้าคุณไม่ได้ทำงานเสร็จเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง การแบ่งสัดส่วนเวลาทำงานก็เป็นสิ่งที่ดี เพื่อไม่ให้ตัวเองทำงานมากเกินไป หรือมัวแต่พักผ่อนเพลินเกินไป โดยคุณอาจแบ่งเวลา 6-8 ชั่วโมงว่านี่เป็นเวลาทำงาน
ยุทธวิธีทางการตลาดในปัจจุบัน การสื่อสารตัวตนของแบรนด์ออกไปให้กับผู้บริโภคได้รับรู้ ถือเป็นอีกแนวทางสำคัญ เพราะคาแรคเตอร์ของแบรนด์ที่ชัดเจนนั้น สามารถส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ที่แม้ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกผลิตภัณฑ์ซึ่งมีคาแรคเตอร์ที่คล้ายคลึง และเข้ากันได้กับไลฟ์สไตล์ของตัวเองเป็นหลัก ด้วยเหตุผลง่าย ๆ จากความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์ ที่เชื่อมั่นว่าสิ่งที่มีความใกล้เคียงกับตัวเอง คือสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียม The Reserve จากค่ายพฤกษา เป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่เรามองว่า สามารถหยิบยกเอาแนวทางสื่อสารการตลาด ซึ่งเน้นการถ่ายทอดตัวตนของแบรนด์มาปรับใช้ได้อย่างน่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ทางการตลาด ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคาแรคเตอร์แบรนด์ที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับความต้องการที่จะเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างตรงจุด จนกลายมาเป็นแนวคิดใหม่ในการสื่อสารแบรนด์โดยใช้สัตว์เป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างตามจุดเด่นของแต่ละโครงการ เพื่อสร้างภาพจำ และความคุ้นเคย รวมถึงเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แนวคิดการเลือกใช้สัตว์เพื่อสื่อสารคาแรคเตอร์ของโครงการที่ชัดเจนนั้นเริ่มมาตั้งแต่ The Reserve Thonglor 2 ที่เลือกใช้หมาป่าเป็นสัญลักษณ์ พร้อม Tagline “Reserve Your Nature” สื่อถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในย่านทองหล่อ ที่มักรวมกลุ่มแบบ Wolfpack เพื่อ Hangout ท่ามกลางแสงสี และความมีชีวิตชีวายามค่ำคืนในย่านนี้ ต่อเนื่องมาจนถึงโครงการล่าสุดอย่าง The Reserve Phahol-Pradipat ซึ่งใช้ “เสือหิมะ” เป็นตัวแทนของนักล่าที่มีความทะเยอทะยานมุ่งมั่น และชื่นชอบการอาศัยอยู่บนที่สูง
ในยุคที่การทำธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงจากรูปแบบ Brick and Mortar เข้าสู่ยุคออนไลน์ในโลกดิจิตัลแบบเต็มรูปแบบ ต้องบอกเลยว่าใครปรับตัวได้ก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะในยุคที่ Digital Disrupt เทคโนโลยีมีบทบาทเข้ามาสู่ชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่าตั้งแต่ตื่นนอนก็เปิดเฟสบุ๊คอัพเดทข่าวสาร กดเรียก Uber ไปทำงาน ซื้อของผ่านออนไลน์ และการทำธุรกรรมอีกมากมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต ยุคที่ต้องมีการปรับตัวอย่างมากเพื่อให้ธุรกิจตอบโจทย์กับความต้องการที่ไร้ขอบเขต เป็นโอกาสอันดีที่ทีมงาน UNLOCKMEN มีโอกาสได้เข้าร่วมงาน THE PREMIER Success Forum 2017 : BEHIND the PRidE-TITUDE ที่จัดโดย บริการเดอะพรีเมียร์ ธนาคารกสิกรไทย ได้เปิดเวทีเล่าแนวคิดและแรงขับเคลื่อนชีวิตสู่เป้าหมายของ 4 บุคคลที่ประสบความสำเร็จบนโลกดิจิทัลในแต่ละสายงาน ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละคนมีแนวคิดที่เจ๋ง และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนยุคใหม่ เราจึงไม่พลาดที่จะนำแนวคิดดี ๆ ของเขาเหล่านั้นมาแบ่งปันกัน ยอด ชินสุภัคกุล ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น “วงในดอทคอม” (wongnai.com) ถ้าพูดถึงเรื่องการหาที่กินใหม่ ๆ เรามั่นใจว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก ”wongnai.com” เว็บไซด์ที่รวมรวมร้านอาหารอร่อย สถานที่เจ๋ง ๆ มาไว้ในที่เดียว