MENU
EAT AND DRINK LIKE A MAN
  • MENU

    MANCAVE: PHILTRATION ห้องปรุงยาเก่าสู่บาร์ลับใต้ดินที่ครีเอตค็อกเทลจากเครื่องเทศและสมุนไพร

    By: unlockmen March 6, 2020

    “ยานัตถุ์หมอมี แก้ฝีแก้หิด ยานัตถุ์หมอชิตแก้หิดแก้ฝี” ประโยคทดสอบการอ่านที่เราพูดเล่นกันมาตั้งแต่เด็กประโยคนี้ คงทำให้ผู้ชายหลายคนพอคุ้นชื่อ “หมอมี” กันอยู่บ้าง แม้ยานัตถุ์จะไม่ได้มีสรรพคุณช่วยแก้หิดหรือแก้ฝี แต่หมอมีที่ปรากฏในประโยคชวนลิ้นพันนี้มีตัวตนอยู่จริง หมอมีคือหมอยาชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาสมุนไพรจีนในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งตอนนี้บ้านเก่าแก่อายุร่วม 125 ปีของเขา ถูกเนรมิตให้กลายเป็นร้านอาหารไทยชาววังที่ซ่อนบาร์ลึกลับเอาไว้ในชั้นใต้ดิน Philtration สปีกอีซี่บาร์ในห้องปรุงยาเก่าของหมอมี ใต้โครงสร้างบ้านไม้สีขาวของร้านอาหารบ้านหมอมี เป็นที่ตั้งของ ‘Philtration’ บาร์ลับในห้องใต้ดินที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของหมอมีและศาสตร์แห่งการปรุงยาของเขา ก้าวแรกที่ผลักประตูไม้เก่าเข้าไปด้านในก็สัมผัสได้ถึงความมืดมิดและแสงไฟสลัวรางที่รอต้อนรับเราบริเวณทางเดินทรงเกือกม้า แต่เมื่อเดินงมไปตามแสงไฟส้มริบหรี่จนสุดทางกลับไม่พบประตูทางเข้าแต่อย่างใด พบเพียงชั้นไม้ปริศนาที่ดูมีเงื่อนงำ เรายืนนิ่งพินิจพิเคราะห์อยู่สักพักและใช้เวลาไม่นานนักก็หาวิธีเข้าไปข้างในได้สำเร็จ ภายในร้านเป็นห้องโถงไม้เก่าแก่ที่ดูลึกลับไม่ต่างจากทางเข้า โดดเด่นด้วยแสงไฟสีเหลืองอมส้มส่องสว่างท่ามกลางความมืด พื้นห้องมีกระเบื้องลายแปลกที่นำเข้าจากอิตาลีเมื่อหลายร้อยปีก่อนทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า บวกกับผนังบางส่วนที่บอกร่องรอยแห่งกาลเวลาได้อย่างดีเยี่ยม ทว่ามีเพดานทรงโค้งแบบสมัยใหม่เข้ามาช่วยรับน้ำหนักของโครงสร้างเดิม และเสริมกลิ่นอายร่วมสมัยจากเฟอร์นิเจอร์หนังและบาร์ไม้ทอดยาวที่ตั้งตระหง่านกลางร้าน จากตำรายาสมุนไพรสู่สูตรค็อกเทลที่ไม่เหมือนใคร เมนูค็อกเทลของ Philtration ถ่ายทอดตัวตนของหมอยาเลื่องชื่อคนนี้ออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เพราะทางร้านจะเน้นเสิร์ฟ herb cocktails ที่ครีเอตขึ้นจากสมุนไพร เครื่องเทศ และผลไม้เป็นหลัก ปริมาณเหล้าที่ใช้จึงไม่ได้หนักแน่นหัวรุนแรงมากนัก หากสร้างสมดุลให้รสเหล้าและหลากวัตถุดิบอย่างลงตัว เพื่อให้ค็อกเทลแต่ละแก้วคงสรรพคุณทางยาที่เอื้อประโยชน์ต่อสุขภาพของนักดื่ม เราประเดิมแก้วแรกด้วย ‘Sam Kok’ ค็อกเทลวรรณกรรมเพชรน้ำเอกของโลกที่ได้ Saint James Rum เป็นเบส สมทบด้วยบรั่นดีรสเข้ม Giffard Apricot

    อ่านต่อ
  • MENU

    MANCAVE: CRIMSON ROOM บาร์เหล้าสไตล์ GATSBY หลังม่านแดง ตัวแทนแห่งยุคเสรีและดนตรีแจ๊ส

    By: unlockmen February 27, 2020

    ก่อนโบกมือลาจากเดือนกุมภาพันธ์แห่งความรักไป UNLOCKMEN อยากชวนมาละเลียดรสแอลกอฮอล์เข้มขมที่หนุ่มนักดื่มทุกคนหลงใหล พลางฟังดนตรีแจ๊สลื่นหู ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกของ ‘Crimson Room’ บาร์เหล้าย้อนยุคที่จะพาคุณย้อนวันวานหวาน ๆ ผ่านแอลกอฮอล์แก้วขมปนอร่อย Crimson Room บาร์แจ๊สสไตล์ Gatsby แห่งปี 1920 เมื่อแหวกผ้าม่านสีแดงสดและเลี้ยวสลับซ้ายขวาไปตามทางแคบ คุณจะพบกับบาร์เหล้าที่ถอดแบบงานดีไซน์ของโรงละครและโถงแสดงดนตรีหรูหรามาได้อย่างแนบเนียน บรรยากาศภายในตระการตาราวกับบาร์แห่งนี้หลุดมาจากยุคใดยุคหนึ่ง จริง ๆ แล้ว Crimson Room ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค Gatsby ในช่วงปี 1920 ซึ่งเป็นยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เศรษฐกิจเฟื่องฟู ผู้คนในตอนนั้นจึงหลงใหลแสงสี ความสนุกสนาน และมองหาความสุขเพื่อทุเลาประสบการณ์เลวร้ายจากภัยสงคราม ยุคนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นยุคแห่งเสรีและดนตรีแจ๊สไปโดยปริยาย โซนที่นั่งแบ่งเป็นบาร์เครื่องดื่ม บาร์ยาวด้านบน ไล่ไต่ระดับลงมาถึงโซนโต๊ะหินอ่อนครึ่งวงกลม และโต๊ะชิดติดเวทีแสดง นอกจากพรมปูพื้นและเบาะนั่งกำมะหยี่สีแดง ยังมีราวเหล็กทองเหลืองที่เลื้อยวนไปตามโต๊ะต่าง ๆ เสริมบรรยากาศภายในร้านให้หรูหรามีระดับ ผนังของร้านออกแบบด้วยส่วนเว้าโค้งที่รับกันกับเสียงดนตรี อาจทำให้คุณด่ำดิ่งลงไปในบทเพลง หรือฟังดนตรีแจ๊สได้อย่างไพเราะยิ่งขึ้น แถมตามผนังและระหว่างทางเดินยังประดับประดาแสงไฟสลัวราง เหมาะแก่การสั่งค็อกเทลหนัก ๆ สักแก้วมานั่งละเลียดจนหมดคืน จากค็อกเทลดั้งเดิมสู่ซิกเนเจอร์ค็อกเทลยุคใหม่ไม่เหมือนใคร Crimson Room มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกมากมาย ตั้งแต่แชมเปญ

    อ่านต่อ