ปัญหาในที่ทำงานยอดฮิตติดลมบน คงไม่พ้นเรื่องช่องว่างระหว่างวัย ความไม่เข้าใจกันของคนสอง Generation ที่มีพื้นฐานทางความคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นความไฟแรงของวัยหนุ่มเลือดร้อน หรือความหัวดื้อยึดตัวเองเป็นใหญ่ของวัยผู้ใหญ่ (ที่มักจะมองว่าอีกฝ่ายนั่นแหละที่หัวแข็ง) ทั้งสองฝ่ายก็ต่างเติบโตมาจากสภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นฐานความคิดแตกต่างกัน หากจะยกเหตุผลมาถกกัน ชาตินี้ก็คงไม่จบ เพราะมันต้องดูกันไปแบบ Case By Case UNLOCKMEN เลยขอเอาความเข้าใจผิดที่ชาว GEN-Y มักจะถูกแปะป้ายจาก Gen รุ่นพี่อยู่เสมอ หากคุณเป็น Gen รุ่นใหญ่ ลองดูว่าคุณกำลังเข้าใจอะไรน้อง ๆ ผิดไปหรือไม่ ลองมองว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีใครถูกผิดแล้วหาทางออกร่วมกันสิ เผื่อจะได้ร่วมงานกับน้อง ๆ ได้แบบรุ่นใหญ่ใจกว้าง เด็กพวกนี้แค่อยาก Make Money เท่านั้นแหละ ทำไงได้ เพราะเงินมันคือแรงจูงใจสำคัญในการเลือกอาชีพยังไงล่ะ จนบางครั้งอาจพาลไปถึงเรื่องเรียนอีกด้วย ว่าพวกเขาเลือกเรียนคณะนี้ เอกนี้ เพราะเงินดี มากกว่าเพราะความชอบหรือความถนัดของตัวเอง เราอาจมองว่าเด็กพวกนี้ก็เลือกแต่งานที่ได้ค่าตอบแทนดีเอาไว้ก่อน เพราะเด็กรุ่นนี้ส่วนมากได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานคือปริญญาตรี เลยอยากจะได้เงินที่สมน้ำสมเนื้อกับการตรากตรำคว้า A มาแบบเลือดตากระเด็น แต่ถ้าหากได้ลองทำงานกับ Gen-Y จริง ๆ คุณจะพบว่าแค่เงินยังไม่สามารถโน้มน้าวพวกเขาไว้ได้ ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ Gen
เพิ่งปล่อย Trailer ออกมาสด ๆ ร้อน ๆ สำหรับ Bohemian Rhapsody ภาพยนตร์อัตชีวประวัติวง Queen ซึ่งมีเตรียมเข้าฉายปลายปีนี้ เรียกได้ว่าถ้าใครเป็นสาวกวงดนตรีวงนี้ต้องมีกระโดดโลดเต้นกันบ้าง เพราะนอกจากนักแสดงที่แคสติ้งมาได้เหมือนราวกับแกะแล้ว ยังใส่เพลงฮิตของวงมาแบบจัดเต็มอีกด้วย แต่สำหรับใครที่ไม่รู้จักวง Queen หรือรู้จักแบบผ่าน ๆ วันนี้ UNLOCKMEN จะพาทุกคนไปรู้จักพร้อมกัน เพื่อให้รู้ว่าทำไมวงนี้ถึงกลายเป็นตำนาน และเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะไปดู Bohemian Rhapsody ไปในตัว เด็กหนุ่มจากลอนดอน ย้อนกลับไปเมื่อปี 1968 Brian May นักศึกษาจาก London’s Imperial College และเพื่อนอีก 2 คนอย่าง Tim Staffell และ Roger Taylor ได้ฟอร์มวงดนตรีชื่อว่า Smile ขึ้นมาเพื่อที่จะเล่นตามคลับบาร์ในกรุงลอนดอน จากนั้นไม่นาน โชคชะตาลิขิตให้พวกเขาเจอกับ Farrokh Bulsara หรือชื่ออังกฤษว่า Freddie นักศึกษาเชื้อสายเปอร์เซียจาก Ealing
การกอด คงเป็น Skinship ที่หลายคนยกให้เป็นอันดับต้นในใจ เหนื่อย ๆ มาทีไร การกอดคงเป็นการฮีลที่ทำได้ง่ายแต่ได้ผลมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะกอดคนรัก พ่อแม่ เพื่อน หมาแมว ก็ล้วนแต่ฮีลได้ทั้งนั้น เหมือนปัญหาที่มันคั่งค้างอยู่ในหัวได้ไหลออกไปหมดแล้ว ตอนที่อ้อมแขนของเราได้โอบใครสักคนไว้ ปกติแล้วตามสัญชาตญาณของผู้ชายอย่างเรา คงจะเคยชินกับการเป็นฝ่ายที่มอบอ้อมกอด แต่ฝ่ายที่ชอบถูกกอดก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปว่าตัวเองไม่ได้แมนเต็มร้อย UNLOCKMEN ขอกระซิบว่า คุณน่ะมีโอกาสเป็นคู่รักที่ดีกว่าฝ่ายที่ชอบกอดซะอีก เพราะอะไรนั้น มาหาคำตอบกัน Give Me A Spoon Hug ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ Spoon Hug กันก่อนดีกว่า ถ้านับกันแบบภาษาสากลที่ทุกคนจะเข้าใจตรงกัน การกอดใครสักคนจากด้านหลังในท่านอน เราจะเรียกว่า Spoon นึกภาพเวลาเราสองคนนอนอยู่ในเตียงในท่าตะแคงแล้วกอดกันดูสิ มันเหมือนช้อนสองคันซ้อนกันอยู่ไงล่ะ เราเลยเรียกการนอนกอดแบบนี้ว่า Spoon รวมไปถึงท่าของเซ็กซ์อีกด้วย เราก็เรียกท่านี้ในชื่อเดียวกัน โดยฝ่ายที่เป็นคนกอดจะเรียกว่า Big Spoon ส่วนฝ่ายถูกกอดจะเรียกว่า Little Spoon ช่างเป็นอะไรที่อบอวลไปด้วยความรักเสียจริง ต่อไปเรามาดูเหตุผลที่ทำให้หนุ่มที่ชอบเป็นฝ่ายถูกกอดในท่า Spoon ดันกลายเป็นหนุ่มที่เป็นคู่รักสุดเวิร์คกันดีกว่า ว่าเขาจะมีไม้เด็ดอะไรที่แตกต่างจากผู้ชายที่ชอบการกอดแบบทั่ว ๆ ไป
เนื่องในวันโรคพาร์กินสันโลก เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา สถาบันประสาทวิทยาซึ่งมีพันธกิจในการศึกษาและพัฒนาองค์ความรู้จึงได้จัดกิจกรรม “สั่น สั่น สั่น กับพาร์กินสัน” เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ผู้ป่วย ญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วย ด้วยการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพาร์กินสัน เคล็ดลับดูแลตนเองสำหรับผู้ป่วย พร้อมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคพาร์กินสันให้แก่ผู้ป่วยที่มี ข้อสงสัยอย่างใกล้ชิด โดยภายในงานได้มีกลุ่มผู้ป่วย บุคคลทั่วไป สนใจเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 130 คน นพ. อัครวุฒิ วิริยเวชกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมระบบประสาท สถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า โรคพาร์กินสันนับว่าเป็นอีกหนึ่งโรคที่โลกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมของสมองและระบบประสาทที่พบได้บ่อยเป็นอันดับที่ 2 รองจากโรคอัลไซเมอร์ โดยสถิติผู้ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันทั่วโลกอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1 ในกลุ่มผู้ที่อายุเกิน 65 ปี และมักพบในผู้ป่วยเพศชายมากกว่าเพศหญิง โรคพาร์กินสัน คือโรคทางสมองที่เกิดจากเซลล์ประสาทในบางตำแหน่งเกิดมีการตายโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทำให้สารสื่อประสาทในสมองที่ชื่อว่า โดปามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารที่มีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายมีปริมาณลดลง จนส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย ซึ่งสามารถจำแนกอาการของโรคพาร์กินสันได้ทั้งหมด 5 ระดับ ได้แก่ ระดับที่ 1 – ผู้ป่วยมีอาการสั่นน้อย มีอาการสั่นเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น และยังสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ระดับที่
พูดถึงการฝึกโยคะในปัจุบันนับว่าแพร่หลายขึ้นเป็นอย่างมากในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ชายอย่างเราก็เลือกที่จะจัดเข้ามาเป็นกิจกรรมเพื่อสุขภาพมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นการศาสตร์และศิลป์ที่เหมาะกับผู้หญิงมากกว่า เพราะว่ามันให้ประโยชน์มากมายกับกระทาชายอย่างเรา (ถ้าอยากรู้ว่าประโยชน์เบื้องต้นของโยคะที่มีต่อผู้ชายสามารถอ่านได้ที่คอนเทนต์ UNLOCK YOUR BODY : 5 เหตุผลที่ผู้ชายอย่างเราควรแบ่งเวลาเข้าคลาสโยคะ) แต่ถ้ารู้สึกว่ายังมันส์ไม่พอ เราอยากให้กันมามองการฝึกโยคะที่โคตรฉีกแนวอย่าง “BLACK YO)))GA” (แบล็คโยคะ) การฝึกโยคะแบบ Vinsaya Yoga (วินยาสะโยคะ) ที่ฝึกด้วยการควบคุมลมหายใจควบคู่กับการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่มีรูปแบบและท่วงท่าที่ตายตัว ท่ามกลางบรรยากาศเดือดลึกจากเสียงดนตรีตระกูล metal สาย deep อย่าง drone, noise, stoner metal, ambient, industrial และ space doom ร่วมกับเพลงฝึกโยคะแบบดั้งเดิมอื่น ๆ พร้อมด้วยบรรยากาศแบบดาร์ก ๆ ตามธีมของการฝึก สวนทางกับแบบแผนแบบเดิม ๆ โดยสตูดิโอของ BLACK YO)))GA ตั้งอยู่ที่เมือง Pittsburgh ในสหรัฐฯ สำหรับชื่อ BLACK YO)))GA ที่เขียนแบบนี้ก็เพราะว่า ทางสตูดิโอต้องการให้เกียรติวง Sunn O))) วงดนตรีแนว
ฝนที่กระหน่ำลงมาเหมือนฟ้ารั่วได้เกือบทุกวัน ทำให้ชีวิตผู้ชายในเมืองอย่างเรา ๆ ต้องประสบปัญหาสารพัดในชีวิต ไหนจะการจราจรสุดสาหัส (ที่ปกติฝนไม่ตกก็ติดสาหัสมากพออยู่แล้ว) ไหนจะน้ำขังรอการระบายที่ทำให้การเดินทางไปไหนต่อไหนยุ่งยากเข้าไปอีก ฝนยังพาความเฉอะแฉะอับชื้นมาสู่ร่างกายสุดแข็งแกร่งของเรา ทำให้เรื่องกลิ่นอับกลายมาเป็นปัญหาระดับชาติเวลาที่เราต้องอยู่ท่ามกลางคนเยอะ ๆ ใครจะเหม็นยังไงก็ยังพอทน แต่ถ้าเราปล่อยให้ตัวเรามีกลิ่นอับโชยออกมา UNLOCKMEN ว่ามันโคตรจะเสียบุคลิคและทำลายความมั่นใจผู้ชายเลย ดังนั้นอย่าปล่อยให้กลิ่นร้ายมันทำลายเรา มาดูหนทางทำให้ตัวหอมไปทั้งวันไม่ว่าฝนจะตกกระหน่ำแค่ไหน เสน่ห์แห่งกลิ่นหอมในตัวชายอย่างเราก็ไม่หายไป ใส่ใจรองเท้าเป็นพิเศษ ฤดูฝนอย่างนี้นอกจากเนื้อตัวร่างกายของเราที่ต้องสัมผัสกับฝนแล้ว รองเท้าก็เป็นอีกไอเท็มหนึ่งที่ต้องปะทะกับน้ำไปเต็ม ๆ ไม่ว่าจะร้องเท้าผ้าใบหรือรองเท้าหนัง เมื่อเจอน้ำก็โอบอุ้มความชื้นอับไว้เต็มสตรีม ดังนั้นอีกที่มาของกลิ่นชวนอุดจมูกของผู้ชายเราก็มาจากรองเท้านี่แหละ ตัวดีเลย! เพราะฉะนั้นถ้าอยากมีกลิ่นหอมอวลกาย ไม่ส่งกลิ่นร้ายทำลายระบบทางเดินหายใจใคร ในหน้าฝนอย่างนี้ต้องหมั่นดูแลรองเท้าไม่ให้ส่งกลิ่นเป็นพิเศษ ถ้าเปียกก็ให้รีบเอาไปผึ่งให้แห้ง อย่าใส่คาเท้าเอาไว้เด็ดขาด ที่สำคัญหาสเปรย์ปรับกลิ่นเท้ามาติดตัวไว้ ใช้ได้ตั้งแต่ฝนนี้ยันฝนหน้าแน่นอน ลงทุนกับน้ำหอมเถอะ สิ่งที่จะทำให้ตัวหอมก็คือน้ำหอมนี่แหละ! แต่ถ้าอยากให้กลิ่นหอมติดตัวนานก็ลงทุนกับน้ำหอมสักหน่อย ซื้อโคโลญจน์ตามร้านสะดวกซื้อใช้มันก็ไม่ผิด แต่กลิ่นมันจะไม่ติดทนนานอย่างที่เราหวัง แถมคาแรคเตอร์ที่ได้ก็ไม่ชัดเจน ดังนั้นหน้าฝนนี้ลองเฟ้นหาน้ำหอมกลิ่นที่เข้ากับคาแรคเตอร์ตัวเองมาติดบ้านไว้ ฉีดในจุดสำคัญอย่างหลังใบหู ข้อมือ และฉีดไปในอากาศแล้วเดินผ่าน เพื่อสร้างกลิ่นหอมจาง ๆ ยั่วยวนใจสาว ๆ ไปทั้งวัน แต่ถ้ายังไม่รู้จะเลือกกลิ่นไหนมาใช้ ลองดู UNLOCKMEN PICKS ก่อนก็ได้ น่าจะได้น้ำหอมถูกใจไปลองใช้สักขวดชัวร์ ๆ
ยิ่งใกล้วันศุกร์ทีไร ร่างกายมันเรียกร้องอยากจะได้แอลกอฮอล์ไหลเข้ากระแสเลือด แต่งานเจ้ากรรมไม่เอื้ออำนวยให้ขยับตัวไปไหน ถ้าหยิบมาซดในออฟฟิศได้ก็คงทำไปแล้ว ถ้าคุณเป็นแบบนั้นเราคือเพื่อนกัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออกเอาซะเลย UNLOCKMEN ขอเสนอสิ่งดี ๆ จาก SUNTORY ที่ให้เราดื่มเบียร์ได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยเบียร์ที่มาในรูปแบบของน้ำเปล่า งงไม่งง ถ้างงลองมาอ่านไปพร้อม ๆ กัน วันไหนที่โหยหาความผ่อนคลาย ก็อยากจะเอ็นจอยกับรสขมนุ่มลึกของเบียร์มันซะเวลางานให้รู้แล้วรู้รอดไป ส่วนมากในหลาย ๆ ออฟฟิศ การดื่มแอลกอฮอล์ในเวลางานยังคงไม่ใช่พฤติกรรมที่พึงประสงค์สักเท่าไหร่ ไม่ต้องหงอยไปหนุ่ม ๆ ล่าสุด Suntory แบรนด์เครื่องดื่มยักษ์ใหญ่จาก โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้หาทางออกให้กับพวกเราชาวออฟฟิศแล้วด้วยเบียร์ All-Free ก็คือเบียร์ที่ใสปิ๊งเหมือนน้ำเปล่า ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีแคลอรี่ แต่ยังคงมีรสชาติเหมือนเบียร์อยู่เหมือนเดิม บรรจุใจกระป๋องและขวดแก้ว ความเจ๋งคือมันให้รสสัมผัสเหมือนกับการดื่มเบียร์จริง ๆ แต่ว่าไม่เมาเท่านั้นเอง (เพราะไม่มีแอลกอฮอล์ไงล่ะ) ถึงอย่างงั้น Suntory รู้ว่าต่อให้มันใสเหมือนน้ำเปล่าก็จริง แต่ถ้าบรรจุภัณฑ์ยังใกล้เคียงกับเบียร์อยู่ ก็อาจจะทำให้เรายังรู้สึกถูกจับตามองได้ง่ายอยู่ดี ถ้าเกิดหยิบขึ้นมาดับกระหายในเวลางาน พวกเขาจึงออกบรรจุภัณฑ์มาใหม่ เรียกว่า All-Free All-Time ที่มาในรูปแบบของขวดพลาสติก ยิ่งทำให้มันเหมือนเครื่องดื่มทั่วไปมากขึ้นนั่นเอง เพื่อตอบสนองวิถีแห่งมนุษย์ออฟฟิศใจกล้าที่อยากจะซดเบียร์มันในออฟฟิศ แถมยังในเวลางานได้แบบเนียน ๆ อย่างไรก็ดี ถ้าสังเกตกันดี ๆ บนขวดเองก็ยังมีรวงข้าวเหลืองอร่าม
การใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ แม้จะไม่ต้องเจอหน้าเจอตากัน แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ชีวิตยังไงก็ได้ บนนั้นก็มีความยาก มีกฎกติกาในการอยู่ร่วมกับคนอื่นเช่นกัน บางครั้งเราจะโพสอะไรที ต้องนั่งคิดหนักว่าจะโพสดีหรือเปล่า โพสโชว์ของแสดงความภูมิใจลงไป มันจะหาว่าเราขี้อวดไหมนะ? โพสถี่ไป มันจะหาว่าเราเวิ่นเว้อ เรียกร้องความสนใจหรือเปล่า? พาลทำให้ผู้ชายหลายคนไม่อยากโพสรูปอะไรมันซะเลยเพื่อตัดปัญหา ถ้าใครหันหลังให้โลกออนไลน์ไปแบบนี้ เราขอแชร์ข่าวด้านดีจากผลวิจัย Journal Health ประเทศอังกฤษ ที่พบว่า ‘การโพสรูปบน Social Network วันละครั้งก็มีข้อดีกับเค้าอยู่ไม่เบาเหมือนกัน’ Dr. Andrew Cox จาก University of Sheffield และ Dr. Liz Brewster จาก Lancaster University นักวิจัยทั้งสองคนร่วมกันค้นคว้าหาความเกี่ยวข้องของสภาพจิตใจและการโพสรูปออนไลน์ ได้ออกมาเป็นงานวิจัยที่ชื่อ “The daily digital practice as a form of self-care: Using photography for everyday well-being” โดยการสังเกตรูปที่โพส ภาษาที่ใช้สื่อสาร และการ Connect กันของคนบนโลกออนไลน์ พบว่าการถ่ายรูปและโพสอย่างน้อยวันละรูป
ความเหงาเป็นเหมือนโรคระบาดที่แพร่กระจายไปได้รวดเร็วในสังคมตอนนี้ ไม่ว่าจะคนรอบข้าง ใครสักคนในออฟฟิศ คนที่เดินสวนกัน หรือแม้แต่คุณเองก็เถอะ ทุกคนล้วนเคยมีความเหงาอยู่ลึก ๆ ในใจกันบ้าง แม้ว่าเราจะใช้ชีวิตให้วุ่นวายแค่ไหน มีผู้คนรายล้อมมากแค่ไหน แต่บางครั้งมันก็ไม่อาจเติมความเหงาในใจที่มันแหว่ง ๆ ไปได้ UNLOCKMEN จะพามาหาคำตอบว่าทำไมกัน ยิ่งหาเพื่อนเยอะ ๆ แต่กลับยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหงามากเท่านั้น ทำไมถึงเหงาได้แม้ข้างกายมีคนรายล้อม ? ความเหงามันไม่จำเป็นต้องมีแค่ตอนที่เราอยู่คนเดียวเท่านั้น ลองนึกถึงสถานการณ์จริง ๆ กันดูบ้าง อย่างวันรวมญาตินี่ตัวอย่างชั้นดีเลย ถ้ามองจริง ๆ คือคนเหล่านั้นมีความสัมพันธ์กับเราทั้งทางสังคมและทางสายเลือด แต่ถ้าหากพวกเขามัวนั่งเล่นโทรศัพท์ อัพเดตข่าว หรือแชทคุยกับคนที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า นั่นทำให้เรามาอยู่รวมกันแต่กลับไม่มี Socialize ต่อกัน แม่งโคตรเหงาเลยนะ จนบางครั้งเราอยากจะปลีกวิเวกตัวเองออกมาจากตรงนั้น เพราะนั่งต่อไปก็ไลฟ์บอย อยู่ไปก็เหงาอยู่ดี ตามสถานการณ์เราไม่น่าจะรู้สึกเหงาด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากเราเกิดเหงาขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้ เพราะการไม่มี Socialize ต่อกันนี่แหละที่เป็นสาเหตุของความเหงา ได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมตามทฤษฎีวิวัฒนาการ และมันก็ยังคงจริงมาเสมอ เราอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้เผ่าพันธุ์ของตัวเอง เรามักจะย้ายถิ่นที่อยู่ หรือเลือกปักหลักปักฐานที่ไหนสักแห่งเราก็จะย้ายกันไปเป็นกลุ่ม เพราะเราเริ่มมีการใช้ชีวิตแบบกลุ่มสังคมมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ความรู้สึกเหงาเมื่ออยู่ตัวคนเดียว หรือตอนที่เราไม่ได้มี Socialize กับใครเลยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับมนุษย์เราเลยจริง ๆ Connecting
พรสวรรค์กับพรแสวงยังคงเป็นเรื่องโลกแตกที่เถียงให้ตายก็ยังไม่ได้ข้อสรุปกันอยู่ดี เพราะพรสวรรค์เองเป็นเหมือนทางลัดให้เดินไปสู่ความสำเร็จได้ง่าย ราบรื่น และไวขึ้น ส่วนพรแสวงก็เป็นเหมือนแหล่ง Energy ขนาดใหญ่ที่เติมให้เราแบบไม่มีวันหมด ทั้งคู่ต่างมีข้อดีกันคนละแบบ UNLOCKMEN จะพามาสำรวจข้อดีของฝั่งพรแสวงกันบ้าง ว่าพวกเขามีจุดแข็งยังไง ทำไมถึงเป็นคู่แข่งของชาวพรสวรรค์ได้แบบสบาย ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตเราคงคุ้นเคยกับคำว่า “พรสวรรค์” กันดีอยู่แล้ว ลองสังเกตดูว่าหากใครเก่งกว่าคนอื่นแบบโดดเด่นขึ้นมา ไม่ใช่โดดเด่นแบบกล้าแสดงออก แต่หมายถึงประสิทธิภาพของการทำอะไรสักอย่างที่โดดเด่นขึ้นมาแบบออร่าจับ แม้ว่าจะลงทุนลงแรงไปน้อยกว่าคนอื่น แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับมีคุณภาพไม่น้อยหน้ากว่ากัน เราคงจะเรียกคนประเภทนั้นว่า “คนมีพรสวรรค์” เราเลยมักจะเห็นเพื่อนในตอนมหาลัย ที่ปาร์ตี้หัวหมุน แฮงก์หน้ามึนเข้าไปสอบ หรือเพื่อนที่ชอบหลับ พลาดทุกเลคเชอร์ แต่กลับได้คะแนนสอบดีระดับต้น ๆ อาจดูน่าหมั่นไส้แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นั่นเป็นเพราะเขาเกิดมาพร้อมกับอาวุธลับที่เป็นเหมือนพลังแฝงอยู่ข้างใน ที่ไม่อาจลอกเลียนแบบกันได้ ความจริงที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ หากเรามองไปที่คนที่ประสบความสำเร็จสักคน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะคิดว่าเขาเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่ความเป็นจริงเบื้องหลังกองเงินกองทองของเขา ก็แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แลกมาด้วยความล้มเหลวไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อย่างนักบาสเก็ตบอลระดับตำนาน Michael Jordan เขาต้องออกจากทีมตอนมัธยม แต่สุดท้ายเขาก็กลายมาเป็นนักกีฬาระดับตำนานได้แบบไร้ข้อกังขา หรือจะเป็น Walt Disney ผู้เคยถูกตราหน้าว่า “ไม่มีไอเดียเป็นของตัวเอง” และ “ไม่มีจินตนาการเอาซะเลย” จากบริษัทหนังสือพิมพ์ที่ไล่เขาออก นี่ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ หรือไลฟ์โค้ชที่มักเอากรณีของคนที่ประสบความสำเร็จมาให้แง่คิดแบบบิดเบี้ยว แต่เรากำลังพูดถึงความพยายาม ความไม่ยอมแพ้ของพวกเขา
สำหรับผู้ชาย ถ้าพูดถึงการจัดสรรเวลาแต่ละสัปดาห์ของการใช้ชีวิต เราใช้ 5 วันจากจันทร์ไปถึงศุกร์กับการใช้พลังสมองและสองมือลงมือไล่บี้งานตรงหน้า กว่าจะรู้สึกว่าตัวเองได้พักเต็มที่จริง ๆ ก็คือวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เราจะสงวนมันไว้สำหรับการนอนสิ้นสติเพื่อเตรียมใจรับชะตากรรมวงจรวันจันทร์ใหม่อีกครั้ง แต่เคยสงสัยไหมว่าบรรดา SUCCESS GUY แนวหน้าทั้งหลายเขาทำอะไรกันอยู่วันนี้ ? นอนเหมือนเราบ้างหรือเปล่า หรือเป็นยอดมนุษย์ที่เอาเวลาไปทำอะไรแปลก ๆ เพื่อบูสต์พลังก่อนวันจันทร์โดยที่เราไม่รู้ ถึงเวลาไขความจริงให้กระจ่างได้ Get cultured คนเก่งสายครีเอทีฟเขาเลิกนอน แต่ลุกขึ้นแต่งตัวออกไปหากิจกรรมสไตล์ Local เพื่อรีเฟรชความคิดสร้างสรรค์ให้ไหลลื่น การสะสมแต้มด้วยการเดินเข้าออกแหล่งวัฒนธรรมทั้งหลายไม่ว่าจะตามมิวเซียม หรือนิทรรศการ บางครั้งมันก็ให้แง่มุมใหม่ที่เราไม่คาดคิดเข้าไปเสริมในงานที่ทำได้ เช่นเดียวกับที่ Tim Gunn mentor ชายด้านแฟชั่นจากรายการเกี่ยวกับดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง “Project Runway” เขาเลือกทำมันเป็นประจำ End Sunday on a high note ทบทวนแล้วแชร์ประสบการณ์ด้านบวก ๆ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นทางออกของการเริ่มต้นวันจันทร์ที่สดใส เจ้าของความคิดนี้คือ Micheal Woodward ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและผู้แต่งหนังสือเรื่อง The YOU Plan ที่คิดขึ้น
ว่ากันด้วยท่วงท่าลีลา Sex หลายคนคงจะนึกถึงความสุขสันต์ในการขึ้นสวรรค์เป็นหลัก แต่นอกจากการถึงจุดสุดยอดของมนุษยชาติหญิงชายแล้ว ประโยชน์อื่น ๆ ที่เราได้จากการร่วมรักนั้นยังมีอีกมาก หนึ่งในนั้นก็คือการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน ซึ่งเราต่างรู้กันอยู่แล้วว่ามันต้องใช้แรงไม่เบา และมันคงจะดีไม่น้อยถ้าเรารู้ว่าลีลาแต่ละท่านั้นสามารถเบิร์นแคลอรี่ได้มากแค่ไหน ในเมื่อเรารู้แล้วว่าวิ่งแค่ไหนเผาผลาญได้เท่าไหร่ เทรนหนักเลเวลใดถึงจะรีดไขมันออกไปได้หมด ต้องเสียเหงื่อกี่หยดเพื่อความเฟิร์ม บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องหาคำตอบว่าท่าจากกามสูตรทั้งหลายมันเบิร์นพลังงานเราได้ขนาดไหนเชียว (ทีมงาน UNLOCKMEN ขอเน้นย้ำว่า “BURN” ในที่นี่คือ “การเผาผลาญ” ไม่ได้หมายความว่าอย่างอื่นที่เรารู้กันแต่อย่างใด) โดยตัวเลขที่จะมาเปิดเผยให้รู้กันนั้นได้มาจากการทดลองจริง ๆ โดยคู่รักหลายคู่ที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม บอกได้แค่ว่าทุกคู่ใช้เวลาร่วมรักกันจนเสร็จกิจราว 20-30 นาที แบ่งการทดลองคู่ละท่า ฝ่ายหญิงหนัก 55-60 กิโลกรัม ส่วนฝ่ายชายหนัก 70-75 กิโลกรัม นับว่าเป็นมวยถูกคู่ กระดูกไม่ห่างชั้นกันมาก ส่วนผลการทดลองนั้น ตามนี้เลยครับ Missionary ท่ามาตรฐานของการร่วมรักที่ฝ่ายชายอยูด้านบน ฝ่ายหญิงอยู่ด้านล่าง ค่อนข้างจะโรแมนติกเมื่อคุณกับเธอได้มองตากันขณะร่วมรักกัน ฝ่ายหญิง : 40 แคลอรี่ ฝ่ายชาย : 120 แคลอรี่ Doggy Style ท่าร่วมรักยอดฮิตที่กระตุ้นอารมณ์ได้สุด ๆ ฝ่ายหญิงคลานเข่า