Business
WORK HARD DREAM BIG
  • Business

    “โฟกัสที่เป้าหมาย แต่ไม่ดูวิธีการแก้ปัญหาอาจทำให้เราล้มไม่เป็นท่า” จะทำอย่างไรดีเมื่อเรามองไม่เห็นภาพใหญ่เวลาทำงาน

    By: unlockmen January 19, 2021

    ความมั่นใจในตัวเองถือเป็นคุณสมบัติที่ผู้ขายควรมีติดตัว เพราะมีหลายสถานการณ์เหมือนกันที่ต้องการการติดสินใจของผู้ชาย รวมถึง ความเป็นผู้นำด้วย แต่บางครั้งความมั่นใจที่มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัวได้ เราไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น คิดว่าตัวเองสามารถแก้ได้ทุกปัญหา หรือ แก้ปัญหาโดยใช้ความเคยชินของตัวเองมากกว่าที่จะใช้วิธีใหม่ ๆ ที่ได้มาจากคนอื่น สุดท้ายเราก็อาจมานั่งกลุ้มใจทีหลังว่า งานที่ออกมาทำไมมีข้อผิดพลาดมากมายขนาดนี้ ทำไมตอนทำอยู่เราถึงไม่สังเกตเห็นมันกันนะ นี่เป็นตัวอย่างของคนที่มีวิสัยทัศน์อุโมงค์ (Tunnel Vision) ซึ่งเป็นมายเซ็ทที่ส่งผลเสียต่อการทำงานของเราอย่างมาก มันอาจทำให้เราผิดพลาดมากขึ้น ได้ประโยชน์จากงานน้อยลง และส่งผลเสียต่อทีมเวิร์กอีกต่างหาก เราเห็นคนทำงานหลายคนเป็นแบบนี้กัน เลยอยากมาอธิบายซะหน่อยว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยให้เราสามารถออกมาจากอุโมงค์ได้ WHAT IS TUNNEL VISION ? ลองจินตนาการดูว่า เรากำลังขับรถ หรือ นั่งอยู่บนรถสักคันหนึ่ง เมื่อมันเคลื่อนที่เข้าสู่อุโมงค์ที่อยู่เบื้องหน้า แน่นอนว่า การมองเห็นของเราก็คงจะเริ่มแคบลง จากเดิมที่เรามองเห็นถนนกว้าง ๆ บ้านเรือน สิ่งก่อสร้าง หรือ ธรรมชาติ ที่อยู่ริมถนน การเข้าอุโมงค์ก็ทำให้เราเห็นเพียงกำแพง ทางเดินรถแคบ ๆ และรถคันอื่นที่ร่วมทางกับเราเท่านั้น ส่วนสิ่งที่อยู่ภายนอกนั้น เรามองไม่เห็นมันเลยจนกว่าจะออกมาจากอุโมงค์ วิสัยทัศน์อุโมงค์ (Tunnel Vision) จึงเปรียบได้กับการที่เราโฟกัสไปที่ส่วนหนึ่งของปัญหาหรืองานอย่างหนัก จนเราไม่ได้โฟกัสไปที่ปัญหาอื่น ซึ่งสุดท้ายเราอาจจะแก้ไขปัญหานั่นไม่ได้ หรือ

    อ่านต่อ
  • Business

    “ฟีลมันหมดไฟ แต่ใจต้องทำงาน” จะทำอย่างไรดีเมื่อการออกจากงานไม่ใช่คำตอบ

    By: unlockmen January 12, 2021

    ช่วงนี้หลายคนน่าจะมีความเครียดและความกังวลกัน เพราะทุกอย่างในตอนนี้ดูไม่แน่นอนเสียเหลือเกิน ไม่มีใครรู้ว่า COVID-19 จะหายไปเมื่อไหร่ ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรเราจะได้ใช้ชีวิตกันแบบปลอดภัยไม่กลัวโรค ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่สถานที่ต่าง ๆ จะเลิกโดนสั่งปิด ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรเราถึงจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำได้อย่างเต็มที่ซะที เหล่านี้คงทำให้หลายคนรู้สึกดาวน์ และไม่อยากทำงานกันบ้างแหละ การทำงานที่ไม่อยากทำอาจทำให้เราเกิดความขี้เกียจ ซึ่งนอกจากจะทำให้เราไม่โปรดักทีฟแล้ว งานวิจัยบอกเราว่า ความขี้เกียจในระยะยาวอาจทำให้เรามีสุขภาพแย่ลง ร่ำรวยน้อยลง และมีความสุขน้อยลงด้วย แต่การออกจากงาน หรือ เปลี่ยนงานในช่วงนี้ คงเป็นเรื่องที่หลายคนรู้สึกว่า ยังไม่ปลอดภัยที่จะทำมัน เพราะอาจทำให้ถูกมองว่าไม่เป็นมืออาชีพ ไม่สู้งาน และขัดขวางความก้าวหน้าในการทำงาน บางคนจึงเลือกที่จะเก็บมันไว้ในใจ มากกว่าที่จะพูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง และเผชิญหน้ากับปัญหานี้เพียงลำพังต่อไป ฟังดูเป็นเรื่องที่ทำให้หลายคนซัฟเฟอร์ แต่โชคดีที่มันยังมีวิธีการประคับประคองตัวเองให้ทำงานต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนกัน เราได้นำวิธีเหล่านั้นมาแชร์กับทุกคนในบทความนี้ ลองทำตามดูแล้วดูว่ามันได้ผลมากแค่ไหน !! ตอบให้ได้ว่าทำไมเราถึงยังต้องทำงานนี้อยู่ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม ควรจะมีการตั้งเป้าหมาย เพราะถ้าไม่ เราอาจรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไร้ค่าไร้ความหมาย และหมดแพสชั่นในการทำมันได้อย่างรวดเร็ว ในการทำงานที่เรารู้สึกว่าไม่อยากทำก็เช่นกัน ถ้าเราจมอยู่กับความรู้สึกที่ว่าทำไมเราถึงยังตัองทำงานนี้ต่อไป ทุกอย่างมันก็คงมีแต่จะแย่ลง เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราควรทำเป็นอย่างแรก คือ การหาให้ได้ว่าทำไมเราถึงยังต้องทำงานที่น่าเบื่อหน่ายอยู่ ? เพราะเงิน? เพราะความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน? เพราะฐานะสังคม? เมื่อเป้าหมายในการทำงานเราชัดแล้ว กำลังใจมันก็มักจะมาเอง แต่ข้อควรระวังเมื่อเราจะตั้งเป้าหมายในการทำงาน คือ

    อ่านต่อ