ช่วงอาทิตย์สุดท้ายก่อนหมดปี 2023 ที่ผ่านมา เราทำงานแบบ WFH อยู่บ้านทั้งสัปดาห์ก็เลยได้โอกาสทองในการทำลายกองดอง (ส่วนหนึ่ง) ตั้งแต่ต้นปีให้พร่องลงเล็กน้อย และจากจำนวนเล่มที่เลือกมาทั้งหมด ก็มีนิยายญี่ปุ่นของโอตสึ อิจิ นี่ล่ะที่ติดอยู่ในใจเอามาก ๆ นักเขียนอะไรดังตั้งแต่อายุ 17 (ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน) และถูกเรียกว่าเป็นเครื่องจักรผลิตความเศร้ามาตั้งแต่ตอนนั้น ตัวอักษรใน ‘เสียงโทรศัพท์ข้ามเวลา’ (Calling You) きみにしか聞こえない ทำงานของมันสำเร็จอีกครั้ง เอาน้ำตาของเราไปหลายลิตร รวม 3 เรื่องสั้นก็เอาน้ำตาไปทั้ง 3 ครั้ง ก็เพราะธีมของเรื่องสั้นทั้งหมดล้วนพูดถึง ‘ความรัก’ ในรูปแบบที่ต่างกัน ของตัวละครต่างวัย แต่ทุกคนเหมือนกันตรงที่ถูกความรักเหล่านั้นเป็นอาวุธทิ่มแทงใจจนปวดร้าว เกิดเป็นความรักที่ไม่สมหวัง / ความรักที่ทำร้าย และ ความรักที่ถูกกีดกัน ‘เสียงโทรศัพท์ข้ามเวลา’ เล่าเรื่องของ เรียว เด็กสาวที่ฝันอยากมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตัวเอง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีเพื่อนให้โทรหาเลยก็ตาม ความหมกมุ่นนำไปสู่จินตนาการถึงโทรศัพท์ในหัวของตัวเอง ก่อนจะพาเธอไปสู่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อจู่ ๆ มีใครบางคนโทรเข้ามาในหัว และมันจะเปลี่ยนชีวิตของเรียวให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ‘บาดแผลวัยเยาว์’ พูดถึงมิตรภาพเด็กประถมในชั้นเรียนพิเศษ 2 คน
ตอนนี้อายุ 29 แล้วทำอะไรอยู่ล่ะ ? เราพบว่าตลอดขวบปีก่อนเข้าเลข 30 ของตัวเอง จะมีวันที่คำถามนี้ถูกกระซิบเบา ๆ ด้วยเสียงที่ดังมาจากตรงไหนสักแห่งภายในหัวของตัวเองอยู่เสมอ ทั้งวันที่ดื่มโค้กซีโร่สองกระป๋องจนนอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งวันที่กำลังน้ำตาไหลกับหนังเรื่องโปรดของโคเรเอดะเมื่อวานก่อนเสียงนี้ก็โผล่มาให้ได้ยินเป็นระยะ ๆ เรารู้ดีว่าคำถามนี้มีต้นตอมาจากไหน และทำไมยังคงอยู่ เมื่อหลายปีก่อนเคยให้สัญญากับเพื่อนที่เรียนมหาลัยคณะดนตรีด้วยกันเอาไว้ ว่าถ้าอายุ 30 แล้วเพลงที่ทำด้วยกันยังไม่ดังก็จะขอเลิกนะ คำพูดติดตลกในวันนั้น ส่งผลรุนแรงกว่าที่คิดเยอะเลย พอกระดาษสัญญาที่เซ็นเอาไว้ด้วยชื่อ-นามสกุลของเราคนเดียวด้วยปากกาลมปากกำลังจะถูกฉีกทิ้งในอีกไม่ช้า ถ้าไม่มีฝันนี้แล้วจะเอายังไงต่อ .. เราถูกตัวเองถามอีกครั้งในขณะที่นับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็จะอายุครบ 30 และคำตอบของเราส่วนหนึ่งอาจจะอยู่ในมังงะเล่มของอาจารย์ Keigo Shinzo ในโพสต์นี้ล่ะมั้ง ก็เลยอยากเขียนถึงหน่อย มังงะที่ตัวเอกของเรื่องบังเอิญอายุเท่ากัน แล้วยังเคยบ้าบอวิ่งไล่ตามความฝันแบบมองไม่เห็นความจริงเหมือนกันอีก Hirayasumi เล่าเรื่องของ ‘อิคุตะ ฮิโรโตะ’ เด็กหนุ่มอายุ 29 ที่ได้รับมรดกเป็นบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่งจากคุณยายที่บังเอิญสนิทกันด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาทำงานเป็น Freeter (คำที่คนญี่ปุ่นใช้เรียกฟรีแลนซ์ที่ทำงานนู่นนั่นนี่ไปเรื่อย ๆ) ในกรุงโตเกียวแบบมีความสุขดี และอยู่บ้านหลังนี้กับลูกพี่ลูกน้องชื่อ ‘โคบายาชิ นัตสึมิ’ ผู้ที่ออกจากบ้านเกิดเพื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะตามฝันของตัวเองไม่ต่างจากฮิโรโตะตอนมาถึงโตเกียวใหม่ ๆ วันแสนธรรมดาของทั้งคู่ประกอบไปด้วยน้ำตา รอยยิ้ม ความสุข