ไม่ว่าคุณจะมีผิวสีไหนมาก่อน แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เวลาเห็นผู้ชายผิวแทนนั้น มันช่างดูเท่ ดูเหมือนผู้ชายที่ทำกิจกรรมกลางแจ้ง เสาร์อาทิตย์เล่น Surf ว่าง ๆ ก็ฟรีรันนิ่ง เห็นอย่างนี้แล้ว หนุ่ม ๆ คนไหนที่อยากมีผิวแทนแบบนั้นบ้าง แต่ว่าสีผิวโดยกำเนิดไม่เอื้ออำนวย ลองทางลัดผิวแทนอย่างการอาบแดด ที่จะช่วยให้หนุ่ม ๆ มีสีผิวแบบ Golden Brown ได้แบบไม่ต้องออกแรงอะไรมากนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การอาบแดด แม้ไม่ต้องออกแรงแต่ก็มีข้อระวังเยอะไปหมด UNLOCKMEN จะมาแนะนำข้อควรระวังของการอาบแดดให้หนุ่ม ๆ ได้มีผิวแทนแบบปลอดภัย ไม่หน้ามืด ไม่ผิวไหม้ ก่อนที่จะได้ผิวแทน อาบแดดแต่ก็ต้องทากันแดด ครีมกันแดดนี่แหละเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการอาบแดดแบบปลอดภัย แม้ชื่อจะบอกกันแดดแต่ไม่ต้องห่วง คุณจะยังได้ผิวแทนอยู่ดี แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ใช้ ครีมกันแดดที่มี SPF ประมาณ 15 สำหรับการอาบแดดเพื่อให้มีผิวแทน ที่จะมาช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ที่จะเบิร์นผิวคุณและรังสี UVA สุดอันตราย เข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกและเป็นต้นเหตุของริ้วรอยอีกด้วย และอย่าลืมใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ปัญหาส่วนมากคือใช้น้อยเกินไปจากปริมาณที่แนะนำ วิธีง่าย ๆ คือบีบครีมกันแดดบนนิ้วให้ได้สองข้อนิ้วมือ ต่ออวัยวะหนึ่งส่วน เช่น
เหนื่อยจากงาน กลับบ้านมาก็อยากจะพักผ่อนแบบเต็มที่ แต่ร่างกายดันไม่ให้ความร่วมมือเอาซะเลย สี่ทุ่มก็แล้ว ห้าทุ่มก็แล้ว ใกล้เวลา Deadline ของการเข้านอนไปทุกที แต่ร่างกายก็ยังไม่เข้าใกล้ความง่วงเอาซะเลย เรื่องการ Relax ตัวเอง หาทางออกให้คนนอนหลับ เราได้พูดถึงในคอนเทนต์ก่อน ๆ ไว้แล้ว UNLOCKMEN จะพามาดูอีกปัญหาที่รบกวนการนอนของหนุ่ม ๆ อย่างการตื่นมากลางดึก แล้วหลับต่อยาก มาดูถึงสาเหตุและทางแก้ไปพร้อม ๆ กัน จะได้ตื่นมาพร้อมการนอนแบบคุณภาพเยี่ยม การนอนอย่างไม่เต็มอิ่ม มันสามารถสะสมหลาย ๆ คืนจนทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลียได้ ผลกระทบที่มันสะสมหลาย ๆ วัน นานเข้ามันไม่ได้ส่งผลแค่กับร่างกายหรือใต้ตาที่ดำคล้ำเพียงอย่างเดียว มันยังส่งผลกับสมองของเราอีกต่างหาก ทำให้รู้สึกเหนื่อยง่าย โฟกัสกับอะไร หรือคิดไอเดียใหม่ ๆ ไม่ราบรื่นเอาซะเลย ตื่นมากลางดึก เป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ ? มันไม่ถึงขนาดที่จะบอกว่าเป็นเรื่องผิดปกติซะทีเดียว สำหรับการตื่นกลางดึกสามสี่ครั้งต่อคืน วงจรการนอนตามปกของคนเรานั้น จะขยับ Stage ทุก ๆ 90-120 นาที Dr. Michael Breus ผู้เชี่ยวชาญการนอน
สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนเคยผ่านช่วงรับน้องใหม่มาแล้ว แม้หลาย ๆ มหาวิทยาลัยจะยกเลิกการทำกิจกรรมที่สร้างความรุนแรงหรือบังคับให้ทำสันทนาการโดยไม่เต็มใจ แต่ UNLOCKMEN ก็เชื่อว่ามีหลาย ๆ มหาวิทยาลัยที่ยังเชื่อว่าการตะโกนใส่รุ่นน้อง บังคับให้ออกมาเต้นไก่ย่าง หรือทำท่าทางประหลาด ๆ เรียกเสียงหัวเราะเป็นการละลายพฤติกรรม บางคนสนุกด้วยก็ดีไป แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสนุกด้วย หลังจากจบการศึกษาผู้ชายหลายคนจึงโล่งอกโล่งใจที่ไม่ต้องทำอะไรที่ถูกละเมิดสิทธิแบบนั้นแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อเราเข้าทำงานที่ใหม่ มักจะมีกิจกรรมละลายพฤติกรรม หรือทำ Team-Building โดยกิจกรรมก็เหมือนเราได้กลับไปเป็นเด็กปีหนึ่งอีกครั้งมีทั้งออกไปเต้น มีทั้งกิจกรรมกลางแจ้ง หรือกิจกรรมยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์ จนเราอดสงสัยไม่ได้ว่ากิจกรรมเหล่านี้มันพัฒนาการทำงานร่วมกันเป็นทีมได้จริงไหม ? องค์กรใหญ่ ๆ อย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล แอปเปิลเขาจับพนักงานมาเต้นไก่ย่างเหมือนเราหรือเปล่า ? และทำไมการบังคับให้ทำกิจกรรมแบบนี้ถึงไม่เวิร์ค ? ความอับอายไม่ใช่การละลายพฤติกรรม “ละลายพฤติกรรม” คือกิจกรรมแรก ๆ ที่เราต้องเจอไม่ว่าจะตอนเข้าเรียนที่ใหม่ หรือทำงานที่ใหม่ เราคิดว่าคนเราจะรู้จักหรือสนิทใจกันด้วยการทำท่าทางตลก ๆ ใส่กัน เต้นแร้งเต้นกาสุดเหวี่ยงใส่กัน บางคนอาจสนุกกับกิจกรรมสันทนาการแบบนี้ แต่นี่ไม่ใช่วิธีที่มืออาชีพที่สุด เพราะการเรียกร้องให้คนออกมาทำท่าทางประหลาด ๆ ต่อหน้าคนที่เพิ่งรู้จักกัน หลายครั้งสร้างความอับอายและอึดอัดให้เกิดขึ้น แทนที่คนในองค์กรจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับทีม กลับกลายเป็นสร้างกรอบขึ้นมากั้นเอาไว้ และรู้สึกแปลกแยกมากไปกว่าเดิม หากต้องการสร้างความมีส่วนร่วมกับทีมลองหากิจกรรมที่สร้างสรรค์กว่านั้นโดยไม่ต้องบังคับให้ใครอับอาย
หลังจากที่ผู้เขียนได้ไปดูภาพยนตร์เรื่อง Ant-Man and the Wasp มาแล้ว ก็เลยอยากจะมาสปอยล์แค่ว่า พี่ Paul Rudd นี่แกดูแลร่างกายได้ดีจริง ๆ เห็นแกโคตรฟิตมาตั้งแต่ภาคแรกอย่าง Ant-Man มาภาคนี้ก็ยังดูดีอยู่ แม้ว่าเจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่ที่ย่อ-ขยายส่วนได้นั้น จะอายุ 49 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูแกร่งและเท่ทั้งในชุดแดงสุดไฮเทค และในนาม Scott Lang “ผมเคยเป็นหนึ่งในคนที่ต้องการเห็นผล แต่ไม่เคยทำมันเสียที” Rudd เล่าให้ Men’s Journal ฟังว่าเขาเองก็เคยขี้เกียจมาก่อน แต่พอรู้ว่าจะได้รับบทบาทเป็น Ant-Man และ Scott Lang เขาก็ทุ่มเทกับการ workout อย่างเต็มที่ ทั้งการดูแลโภชนาการที่เขาได้รับคำแนะนำจาก Carlon Colker และการฟิตร่างกายที่เขาได้ Richard Louis เทรนเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก เจ้าของยิม FitSpaceNYC มาช่วยเคี่ยวเข็ญ ซึ่ง Louis เคยเปิดเผยตามตรงว่า “บอกตรง ๆ เลยว่าผมไม่รู้จัก Paul มาก่อน จนกระทั่งได้มาร่วมงานกัน เซสชั่นแรก ๆ ของการเทรนยอมรับว่ายากลำบาก แต่
ประเด็นร้อนในสังคม ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเสมอ โดยเฉพาะในยุคที่ทุกคนมีสมาร์ตโฟนอยู่ในมือ การใช้ Social Media เสพสื่อและเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ได้กว้างมากขึ้น เราจะได้เห็นความคิดเห็นจากผู้คนหลากหลายความคิดมากขึ้น ฟังขึ้นบ้าง ไม่ขึ้นบ้าง ตลกร้ายบ้าง เหตุผลหนักแน่นบ้าง ปะปนกันไป แต่สิ่งที่เห็นแล้วน่าหงุดหงิดที่สุดก็ยังคงเป็นตรรกะวิบัตินี่แหละ ที่มันรบกวนใจเราเหลือเกิน UNLOCKMEN จะพามาทำความรู้จักกับตรรกะวิบัติที่เราเคยแนะนำกันไว้ในคอนเทนต์ “DON’T GET LOST IN LOGIC แนะนำ 5 ตรรกะวิบัติที่พวกเราควรรู้ ก่อนไปเสียเวลาอันมีค่าเถียงกับคนอื่น” ใครที่ยังไม่เคยอ่าน Part แรกไปตามอ่านกันได้ แล้วมาต่อกันในคอนเทนต์นี้ เปรียบเทียบผิด (False Analogy) ตรรกะวิบัติอันนี้ เรียกว่ากำลังมาแรงในช่วงนี้เลยล่ะ มันไม่ได้มาแรงด้วยตัวของมันเอง แต่มันมาพร้อมกับพวกไลฟ์โค้ช นักหว่านคำคมที่ดูเหมือนจะเท่ เหมือนจะสะกิดใจให้ข้อคิด แต่มาตกม้าตายตรงที่มันกลวง เพราะใช้ Metaphor หรือหยิบจับอะไรมาเปรียบเทียบกันแบบผิด ๆ พูดง่าย ๆ คือเอาสิ่งที่มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ มาเปรียบเทียบในบริบทเดียวกัน พูดเฉย ๆ อาจจะยังง มาดูตัวอย่างกันดีกว่า Ex.
ผู้ชายวัยทำงานอย่างเรา ๆ คงจะเข้าใจดีถึงการใช้ชีวิตในโหมดบ้าพลังตั้งใจทุ่มเททำงานอย่างหนักหน่วง เพื่อเป้าหมายปลายทางในการไขว่คว้าหาความสำเร็จมาครอบครอง เรียกได้ว่าบ่อยครั้งที่ลุยงานหามรุ่งหามค่ำกันแบบลืมเหนื่อย แต่ถึงแม้ใจจะไหวเกินร้อย สุดท้ายร่างกายที่ไม่ใช่เครื่องจักรยังไงก็ต้องมีวันหมดพลังเหนื่อยล้าอ่อนแรงกันบ้าง และถึงแม้หลายคนจะคิดว่า เหนื่อยกายแค่นี้มันจิ๊บจ๊อย เพราะมั่นใจว่าดูแลร่างกายตัวเองอย่างดี พักเดี๋ยวเดียวก็หาย แต่ถึงแม้จะฟิตแค่ไหนเมื่อต้องเจอกับการใช้ชีวิตรวมถึงการทำงานแบบใส่เต็มเหนี่ยวอย่างต่อเนื่องคงหนีไม่พ้นจากภาวะเหนื่อยล้าสะสม ครั้นจะหนีไปนอนพักร่างชาร์จพลังยาว ๆ มนุษย์งานเดือดอย่่างพวกเราก็คงไม่มีเวลามากขนาดนั้นวันนี้ UNLOCKMEN จึงขออาสามาแนะนำวิธีปลุกพลังให้ฟื้นคืนจากความเหนื่อยล้าแบบง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับเป็นหนทาง Boost Up Energy ในยามเร่งด่วน ให้ชีวิตกลับมาสดชื่นแจ่มใสพร้อมลุยเต็มที่ในทุก ๆ วัน PEPPERMINT ใครจะไปคิดว่าใบมิ้นต์หรือสะระแหน่ใบเล็ก ๆ จะช่วยพลิกฟื้นคืนพลังให้กับเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่จากผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sport and Exercise Psychology โดยศาสตราจารย์ Bryan Raudenbush ผู้อำนวยการฝ่ายงานวิจัยแห่ง Wheeling Jesuit University ได้ค้นพบข้อสรุปที่ว่ากลิ่นเปปเปอร์มิ้นต์นั้นช่วยให้นักกีฬาแกร่งขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการทดสอบสมรรถภาพนักกีฬาจำนวน 40 คน ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ทั้งที่มี และไม่มีกลิ่นเปปเปอร์มิ้นต์ โดยขณะที่นักกีฬาอยู่ในห้องเปปเปอร์มิ้นต์นั้นจะสามารถวิ่งได้เร็วกว่า วิดพื้นได้จำนวนครั้งมากกว่า
ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นกับกระดูกสันหลังสามารถพบได้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากกิจกรรมในการดำเนินชีวิตแต่ละวันของคนเราเปลี่ยนไป โดยมักพบในคนวัยทำงาน และผู้สูงอายุที่กระดูกสันหลังเสื่อมลงตามกาลเวลา ทั้งนี้เมื่อกระดูกสันหลังมีปัญหาควรรีบทำการรักษา เพราะเป็นเหตุสำคัญที่อาจทำให้ผู้ป่วยเดินหรือยืนนานๆ ไม่ได้ จึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันตามมา นายแพทย์พิทวัส ลีละพัฒนะ แพทย์ด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวในช่วงวัยทำงานผู้ป่วยมักได้รับบาดเจ็บจากการยกของหนัก เล่นกีฬา หรือจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ปัญหาที่พบได้บ่อยๆในวัยดังกล่าว คือ ภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้นกดทับเส้นประสาทส่วนเอว ผู้ป่วยจะมีอาการปวดร้าวลงขาต่ำกว่าระดับเข่า อาการจะเกิดขึ้นทันทีหลังจากการยกของหนัก หรือเอี้ยวตัวผิดท่า อาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำเมื่อความดันในหมอนรองกระดูกเพิ่มมากขึ้น เช่น การนั่ง การก้มงอตัว การเบ่งต่างๆ ได้แก่ เบ่งปัสสาวะ อุจจาระ ไอ จาม เป็นต้น อาการดังกล่าวอาจเป็นได้มากจนถึงขั้นทำให้เกิดการอ่อนแรงของขาได้ ฉะนั้นเมื่อเกิดภาวะนี้ขึ้นแล้วจะส่งผลให้ผู้ป่วยต้องหยุดการทำงาน หรืออาจถึงขั้นต้องออกจากงานในที่สุด สำหรับในผู้สูงอายุนั้นมักสัมพันธ์กับอายุที่มากขึ้น ส่งผลให้เกิดการเสื่อมการหลวมของข้อต่อกระดูกสันหลังโดยเฉพาะส่วนเอว เนื่องจากเป็นส่วนที่มีการเคลื่อนไหวและรับน้ำหนักมากที่สุด ผู้ป่วยในระยะนี้จะมีอาการปวดหลังเวลามีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนท่าทางต่อมาเมื่อการเสื่อมเกิดมากขึ้น จะพบมีการหนาตัวของเส้นเอ็นและเยื่อหุ้มข้อต่อกระดูกสันหลัง จนส่งผลให้เกิดการกดทับเส้นประสาทส่วนเอวในท้ายที่สุด อาการในระยะนี้จะส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวลงขา หรือขาอ่อนแรงเวลายืน หรือเดินไปสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง จะทำให้ผู้ป่วยยืนหรือเดินต่อไปไม่ได้ต้องรีบหาที่นั่งพักทันที อาการดังกล่าวจึงจะดีขึ้น หากอาการตีบแคบดำเนินต่อไปนานขึ้นโดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการต่างๆ จะค่อยๆ แย่ลง ผู้ป่วยจะยืนและเดินได้สั้นลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด อาจมีอาการขาอ่อนแรงตลอดเวลารวมถึงอาจมีปัญหากลั้นอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ร่วมด้วย โดยแนวทางการรักษาภาวะที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นคือ
เพิ่งจะ TGIF ไปไม่นาน เผลอแป๊ปเดียววันจันทร์มาเยือนอีกแล้ว แค่คิดว่าพรุ่งนี้ต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าก็รู้สึกท้อ ไหนจะต้องเผชิญกับการจราจรห่วยแตก งานน่าเบื่อ หัวหน้างานงี่เง่าอีก วันจันทร์เลยกลายเป็นวันที่ทุกคนพร้อมใจกันเกลียด แต่นอกจากเหตุผลเหล่านี้แล้วยังมีเหตุผลอีกหลายข้อที่ทำให้วันจันทร์เป็นวันที่ทุกคนไม่อยากให้มันมาถึง ใครที่เกลียดวันแห่งสีเหลืองวันนี้เหมือนกัน มาหาคำตอบไปพร้อมกัน และ UNLOCKMEN พอจะมีวิธีแก้คร่าว ๆ ให้ หลับสนิททั้งคืน แต่ตื่นมายังงัวเงีย หลังจากปาร์ตี้มาอย่างสุดเหวี่ยงในคืนศุกร์-เสาร์ วันอาทิตย์คือวันพักผ่อนของเหล่าคนทำงาน อยู่บ้านไม่ออกไปไหนและตั้งใจจะเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อจะได้ตื่นไปทำงานอย่างสดชื่น หลังจากที่คุณหลับสนิท 8 ชั่วโมงรวดโดยไม่มีการสะดุ้งตื่นกลางคันเลย แต่คุณกลับตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เชื่อว่าหลายคนคงเคยเป็น ถ้าคุณหลับสนิทดีแปลว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่การนอนของคุณแล้วล่ะ น่าจะอยู่ที่ ‘แรงบันดาลใจ’ ต่างหาก เปรียบเทียบกับการออกทริปต่างจังหวัดกับเพื่อน ๆ เพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ ในตอนนั้นคุณเที่ยวมาทั้งวัน แถมตอนกลางคืนยังปาร์ตี้กันจนเละเทะอีกต่างหาก แต่คุณกลับตื่นขึ้นมาอย่างแจ่มใส พร้อมจะลุยวันใหม่ นั่นเป็นเพราะคุณตื่นเต้นและรู้ดีว่าเมื่อตื่นขึ้นมาจะพบความสนุก แต่วันจันทร์ที่เป็นวันทำงานวันแรกและคุณรู้ว่าสิ่งที่น่าเบื่อกำลังรอคุณอยู่จึงทำให้คุณรู้สึกอยากนอนอยู่บนเตียงต่อไปมากกว่า ปัญหาของเรื่องนี้อาจจะอยู่ที่ว่าคุณไม่ได้รักงานของคุณมากพอหรือเปล่า? วิธีแก้: ลองหาส่วนที่คุณชอบที่สุดของงานของคุณดู บอกตัวเองว่าวันจันทร์เป็นโอกาสเดียวที่จะทำให้คุณได้กลับไปทำในสิ่งที่รักนั้น คุณน่าจะรู้สึกดีกับวันจันทร์มากขึ้นแน่ ๆ อย่าเพิ่งมา ยังไม่พร้อม! เหตุผลข้อนี้ตรงข้ามกับข้อแรก ด้านบนเป็นคนที่เตรียมตัวพร้อมสำหรับวันจันทร์แต่ก็ยังรู้สึกเบื่อ แต่ในข้อนี้สำหรับคนที่ยังเตรียมตัวไม่พร้อม คุณอาจจะมีงานค้างต้องทำในช่วงสุดสัปดาห์แต่คุณดันปาร์ตี้เพลินจนลืมหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่จนคุณลืมทำงาน แน่นอนว่าคุณจะต้องโดนเจ้านายระเบิดใส่จึงเกิดกลัวและไม่อยากให้วันจันทร์มาถึง วิธีแก้: เหตุผลข้อนี้แก้ไม่ยากเลย
ชีวิตที่ดีต้องมีแต่ความสุข คำพูดที่ถูกปลูกฝังมาจากหนังสือและแรงบันดาลใจจากกูรูหลากหลายอย่างหนัก ดูเผิน ๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ในชีวิตจริงคงเป็นไปได้ยากที่จะมีความสุขได้ตลอดเวลาขนาดนั้น วันนึงเราเกิดสงสัยในความจริงเรื่องนี้ว่า ยิ่งโดนปลูกฝังให้มีความสุขตลอดเวลา มันยิ่งรู้สึกเหนื่อยในการพยายามประคองรักษาระดับความสุขของตัวเอง เกิดเป็นปมเปรียบเทียบกับคนอื่นว่า คนอื่นเค้ามีความสุขกัน แล้วทำไมเราถึงต้องเศร้า ต้องอารมณ์ไม่ดี ทั้งที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวนอกเหนือการควบคุมนั้น พร้อมที่จะทำให้เราเสียใจได้ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่การจราจร เพลงเศร้า ลูกค้าด่า เจ้านายคลั่ง ของหาย และอื่น ๆ อีกมากมาย “You should take the approach that you’re wrong, Your goal is to be less wrong”- Elon Musk สิ่งที่เราสนใจคือการได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ Elon Musk ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาเหนือกว่าคนอื่น ส่วนนึงมาจากความสามารถรับมือกับความผิดพลาด ตัวเค้าผ่านความผิดพลาดมาชนิดนับครั้งไม่ถ้วน ด้วยความชอบทดลองลงมือทำอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา Musk มองว่าเป้าหมายของเค้าไม่ใช่การไม่ผิดพลาด แต่เป็นการเอาชนะความเสียใจจากความผิดพลาดนั้น และพยายามผิดพลาดให้น้อยลง จนกระทั่งไม่ผิดพลาดเลย การใช้ข้อดีจากความเสียใจในข้อผิดพลาดของ
หลังออกกำลังกายเสร็จหมาด ๆ จนเหงื่อโชก อะไรจะเรียกความสดชื่นของผู้ชายอย่างเราได้ดีกว่าเกลือแร่แช่เย็นเจี๊ยบดับกระหาย พวกเราคงเคยคิดแบบนี้ใช่ไหม แต่มันอาจเป็นเพราะบ้านเราไม่มีใครลองกินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์มากกว่า เพราะเมืองเบียร์เขาออกมายืนยันตอนช่วงโอลิมปิกหน้าหนาวว่า “กินเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ คือที่สุดของการฟื้นฟูร่างกายนักกีฬาจริง ๆ ไม่ได้โม้” ไม่รู้ว่าเพราะเป็นประเทศที่กินเบียร์ต่างน้ำกันเป็นปกติหรือเปล่า ทำให้การสรรหาเครื่องดื่มให้นักกีฬาของชาตินี้ต่างจากชาติอื่น ถ้ายังจำกันได้โอลิมปิกที่จัดที่เมือง Pyeongchang ประเทศเกาหลีใต้ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ประเทศเยอรมนีใช้วิธีดูแลนักกีฬาด้วยเครื่องดื่มประจำชาติอย่าง “เบียร์” แต่เลือกที่เป็นแบบไร้แอลกอฮอล์มาให้ดื่มกันทั้งระหว่างการฝึกและหลังการแข่งสิ้นสุด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้กลับมาน่าทึ่ง เนื่องจากประเทศเยอรมนีไม่เพียงได้ที่ 2 จากการกวาดคะแนนรวมการแข่งขัน ที่สำคัญยังได้รับเหรียญทองเทียบเท่ากับแชมป์อย่างนอร์เวย์ถึง 14 เหรียญทองเชียว Johannes Scherr แพทย์ประจำทีมสกีในโอลิมปิกนำวิธีนี้มาใช้โดยได้แรงบันดาลใจมาจากข้อมูลผลการศึกษาของบริษัทกลั่นเบียร์ที่จัดทำขึ้นเพื่อพิสูจน์ในรูปแบบ Double-blind หรือการพิสูจน์โดยไม่บอกผู้ทดลอง โดยนำเบียร์ให้นักวิ่งมาราธอนดื่มทุกวันต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ก่อนการแข่งและ 2 สัปดาห์หลังการแข่งขัน ผลปรากฎว่านักวิ่งที่ดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มีอาการอักเสบน้อยกว่านักวิ่งที่ได้รับยาหลอก (ยาที่ทำจากแป้งแต่ไม่ได้มีสรรพคุณทางจริง คนนิยมใช้เพื่อทดสอบกระตุ้นให้ผู้กินรู้สึกว่าได้รับการรักษา) นอกจากผลการศึกษานี้แล้วยังมีผลวิจัยของ Chilean หนึ่งในนักวิจัยที่ศึกษาด้านโภชนาการช่วยการันตีถึงประโยชน์ของมัน เพราะเขาว่าการดื่มเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ ก่อนการออกกำลังกายช่วยให้นักกีฬาฟุตบอลช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายได้ด้วย ถอดรหัสทำไมในเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ถึงดีกับร่างกาย เมื่อติดตามผลกันให้ลึกซึ้งแล้วมันมีเหตุผลมากกว่าการสุ่มกินสุ่มทดสอบหรือหลักการตลาดที่เผยออกมาเพื่อเรียกแขกเท่านั้น เนื่องจากเบียร์ประกอบขึ้นจากวัตถุดิบสำคัญที่มีประโยชน์กับร่างกาย ตั้งแต่ Hops ดอกไม้ที่เป็นต้นทางของรสชาติขมที่มีสรรพคุณช่วยรักษาโรควิตกกังวล นอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย
ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่เคยอ่านการ์ตูนขายหัวเราะ-มหาสนุก เชื่อว่าคงจำมุกตลกเรื่อง “นักเขียนการ์ตูนไส้แห้ง” ได้ขึ้นใจ เพราะมันเป็นมุกที่ถูกใช้วนซ้ำบ่อย ๆ จนเราเชื่อไปแล้วว่านักวาดการ์ตูนนั้นไส้แห้งจนต้องห้อยปลาทูไว้กับเพดานเพื่อกินกับข้าวจริง ๆ แม้ตอนนี้ยุคสมัยจะต่างออกไป งานในวงการศิลปะและงานสร้างสรรค์ได้รับความสำคัญมากขึ้น แต่ในโลกออนไลน์ก็ยังมีกรณีการกดราคาคนทำงานสร้างสรรค์ออกมาให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นขอให้ทำอินโฟกราฟิกด้วยราคาไม่ถึงร้อย ออกแบบโลโก้ในราคาร้อยกว่าบาท หรือจ้างเขียนบทความบทความละร้อยสองร้อย “ศิลปินไส้แห้ง” จึงไม่ใช่คำที่เกินความจริงแต่อย่างใด แต่นอกจากระบบเศรษฐกิจที่ไม่ให้ความสำคัญกับงานสร้างสรรค์แล้ว นักวิทยาศาสตร์เขาดันค้นพบคำตอบว่าบางทีความจนที่มาคู่กับศิลปิน มันมีเรื่องเชื่อมโยงกันมากกว่านั้น งานวิจัยชิ้นนี้เป็นของ ดร.Roberto Goya-Maldonado ผู้เป็นหัวหน้าแผนกประสาทวิทยา ที่ห้องปฏิบัติการจิตเวชในศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย เมือง Gottingen ประเทศเยอรมนี งานวิจัยครั้งนี้เขาได้กลุ่มตัวอย่างมาจำนวนหนึ่ง โดยแบ่งออกเป็นคนที่ทำงานด้านศิลปะ เช่น นักแสดง จิตรกร ประติมากร และช่างภาพ และอีกครึ่งหนึ่งคือคนที่ไม่ได้ทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะเลย เช่น พนักงานขายประกัน ทันตแพทย์ ผู้บริหาร และวิศวกร รวมถึงคนที่ระบุออกมาว่างานของตัวเองไม่มีความข้องเกี่ยวกับการ “สร้างสรรค์” ทีมวิจัยจะทำหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ส่วนต่าง ๆ ในสมองของคนเหล่านี้ที่หลั่งสารโดปามีนออกมา โดยสารโดปามีน เป็นสารเคมีในสมองชนิดหนึ่งที่จะหลั่งออกมาก็ต่อเมื่อเรารู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ เช่น อาจจะตื่นเต้นจากเรื่องเพศ การใช้ยาเสพติดแบบสุดเหวี่ยง หรือเมื่อเรากำลังลุ้นการพนันอยู่ ฯลฯ จากนั้นการทดลองเรื่องสมองก็เริ่มขึ้น
บางคนเชื่อว่าการใช้เงินแบบชาญฉลาดที่สุดคือการซื้อของที่ถูกที่สุด ราคาต่ำที่สุด ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วการลงทุนกับบางเรื่องนี่คุ้มแสนคุ้ม โดยเฉพาะกับ 6 สิ่งต่อไปนี้ที่ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินถึงกับออกปากว่า เฮ้ย แพงแค่ไหนก็จ่ายเถอะ! เพราะมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มจริง ๆ การศึกษาคืนต้นทุนชีวิต คงไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าการศึกษามันสำคัญกับชีวิตของมนุษย์อย่างเรา ๆ มาก ยิ่งเราลงทุน ทุ่มเทไปกับการศึกษามากเท่าไหร่ มันก็มีแต่จะงอกเงยมาที่เราทั้งนั้น เพราะการศึกษาคือต้นทุนชีวิตที่สามารถนำเราไปสู่สารพัดสิ่งดี ๆ ไม่เพียงเท่านั้นผู้เชี่ยวชาญยังบอกว่าการลงทุนกับการศึกษาและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ยังทำให้ชีวิตเราน่าสนใจและน่าตื่นเต้นขึ้นอีกมากโขเลยทีเดียว การออกเดินทางคือประสบการณ์ชีวิต การออกเดินทาง การท่องเที่ยวนั้นดีต่อร่างกายและคุณภาพชีวิตโดยรวมของเรา เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าเราได้พักผ่อนและให้รางวัลกับชีวิต ที่สำคัญการใช้เงินไปกับการท่องเที่ยวมันไม่ใช่แค่เพียงพาร่างกายไปพบความผ่อนคลายเท่านั้น แต่งานวิจัยชี้ว่ามันคือการซื้อประสบการณ์ ซึ่งการซื้อประสบการณ์ก็ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมใหม่ ๆ พบเจอผู้คนใหม่ ๆ นอกจากนั้นงานวิจัยยังชี้ว่าการการใช้เงินซื้อประสบการณ์ทำให้เรารู้สึกดีมากกว่าการใช้เงินไปกับการซื้อสิ่งของ เครื่องนอนดี ๆ คือที่มาของชีวิตที่ดี บอกให้ใช้เงินไปกับการศึกษาผู้ชายอย่างเราก็พอนึกภาพออก ใช้เงินซื้อประสบการณ์การท่องเที่ยวก็พอจินตนาการได้ แต่พอมาถึงการบอกให้จ่ายเต็มที่กับ “เครื่องนอน” เราคงพากันงงเป็นไก่ตาแตก แต่ลองคิดดูสิว่าเราใช้เวลาอยู่บนเตียง 5-8 ชั่วโมง ในแต่ละปีเราจึงใช้เวลาบนเตียงมากกว่า 1,825 ชั่วโมง ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญกับเครื่องนอนมาก ๆ ไม่ใช่แค่เพราะเราใช้เวลากับมันเยอะ แต่การนอนที่ไม่มีคุณภาพจะส่งผลต่อสุขภาพ