สิ่งที่น่าสนใจสำหรับวงการดนตรีโลกในช่วง 2-3 ปีมานี้ คือการที่เราได้เห็นซีนของศิลปินเอเชียหรือ Asia Sound ผงาดและฉายแสงในวงการดนตรีโลกมากกว่าที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ทั้งพลังวัยรุ่นของกลุ่มศิลปินจาก 88 Rising ที่ถล่มเทศกาลดนตรี Cocealla อย่างราบคาบ หรือฝั่ง K-POP วงเกิร์ลกรุ๊ปและบอยแบนด์อย่าง BTS, AESPA, BLACK PINK และวงเกาหลีอีกหลาย ๆ วงก็ได้ทำลายกรอบของเพลง Main Stream โลกไปแล้ว UNLOCKMEN ขอพาทุกคนย้อนกลับไปในปี 2017 ณ ช่วงเวลาที่ Asia Sound ยังไม่บูมขนาดวันนี้ มีเด็กหญิงที่ใช้ชื่อในวงการว่า beabadoobee กำลังจะเปลี่ยนภาพจำที่ว่า ‘เราหาต้นแบบศิลปินเอเชียบนเวทีโลกไม่ค่อยได้เลย’ ไปย้อนดูเรื่องราวในก้าวแรกของเธอกัน กลุ่มเพื่อนเรียกเธอว่า Bea แต่ชื่อจริงของเธอคือ Beatrice Laus ส่วนเบื้องหลังชื่อที่ทั่วโลกเรียกเธอว่า beabadoobee นั้น เกิดขึ้นปี 2017 ในวันที่เธอกับเพื่อนจะอัพเพลงแรกขึ้นสตรีมมิ่งแล้วยังไม่มีชื่อ Artist เลย แน่นอนว่ามันก็อัพเพลงไม่ได้ ก็ลองตั้งชื่อกันไปมา แต่ไม่ผ่านสักที
AC/DC วงฮาร์ดร็อกระดับตำนานจากประเทศออสเตรเลีย ที่โดดเด่นด้วยดนตรีอันทรงพลังที่มาพร้อมกับาภพจำของ Angus Young มือกีตาร์ในชุดนักเรียนกับกีตาร์ Gibson SG คู่ใจ อีกทั้งยังสร้างผลงานระดับคลาสสิคประดับวงการเพลงร็อกไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “Thunderstruck”, “Highwat To Hell”, “Hells Bells” รวมไปถึง “Back In Black” ผลงานที่ริฟฟ์กีตาร์สะกดคนทั้งโลกให้ถวายตัวเป็นสาวก AC/DC มาแล้ว “Back In Black” เป็นผลงานจากอัลบั้มชื่อเดียวกับเพลงนี้ ถูกปล่อยให้ฟังครั้งแรกในเดือนธันวาคม 1980 เพลงนี้เปิดฉากมาด้วยเสียงนิ้วของ Angus Young ดีดลงไปยังเส้นลวดโลหะที่ตรึงอยู่กับกีตาร์ Gibson SG ก่อนจะตามมาด้วยริฟฟ์กีตาร์ที่เล่นได้กระชับแต่เต็มไปด้วยความทรงพลังและมีลูกเล่นที่แพรวพราว แถมมันยังติดหูแบบสุด ๆ ส่วนท่อนอื่น ๆ ในเพลงมีการสับเปลี่ยนริฟฟ์ไปบ้าง แต่โดยรวมคือถูกเรียงมาเป็นแพตเทิร์นเพื่อทำให้เพลงมีความกลมกลืน ส่วนจังหวะพีคของเพลงเป็นซาวด์ของริฟฟ์กีตาร์และท่อนโซโล่ส่งท้ายที่ให้สำเนียงของดนตรีบลูส์ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ซาวด์กีตาร์จะออกมาได้อารมณ์ไม่สมบูรณ์แบบหากไม่มีภาคริธึ่มที่เล่นกันได้อย่างรู้ใจ ส่วนเสียงร้องแหลมแหบแห้งของ Brian Johnson ก็ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือผลงานเสียงร้องของเขาชุดแรกกับวง AC/DC อีกด้วย ซึ่งเขาเข้ามาทำหน้าที่แทน Bon Scott นักร้องคนเก่าที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่
คุณเคยลองถามตัวเองไหมว่าทุกวันนี้เคยทำอะไรที่เป็นตัวเองได้เต็ม 100% แล้วหรือยัง? หรือเคยมีโอกาสได้ลองทำมันบ้างซักครั้งหรือยัง? เคยได้ออกจากกรอบที่คอยสกัดกั้นความกล้าบ้าบิ่นของเราแล้วหรือไม่? แน่นอนว่าคำตอบของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันออกไป แต่ไม่ใช่กับผู้ชายคนนี้ที่มีนามว่า “นราวุธ อำนวย” หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันในชื่อ “แร็ปเอก” แร็ปเอกเคยสร้างกระแสไวรัลในโลกโซเชียลมีเดียเมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว ด้วยการแร็ปพรีเซนต์ความเป็นตัวเองแบบได้แหวกแนวสุด ๆ สุดชนิดที่แบบไม่เหมือนใครและไม่มีใครกล้าเหมือน แถมยังมาพร้อมคำสร้อย “อัยย๊ะ ใช่ ๆ” ที่หลอนดูคนฟังมาจนทุกวันนี้ แต่กว่าที่เขาจะยืนหยัดมาได้ต้องสู้รบตบมือกับบรรดาคำวิจารณ์ด้านลบและการถูกบูลลี่ที่ทำให้เขาเคยท้อหนักมาแล้ว แต่เขารับมือกับมันอย่างไรให้ผ่านพ้นช่วงเวลาเลวร้ายเหล่านั้นมาได้ มาทำความรู้จักความเรียลอีกหนึ่งมุมของแร็ปเอกที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยเห็นไปพร้อม ๆ กันได้เลยครับ แร็ปเอกอดีตพนักงานพิสูจน์อักษรที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นศิลปินมาตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น แม้เขาจะสร้างชื่อด้วยการแร็ป แต่แท้จริงแล้วเขากลับชื่นชอบวงร็อกมากกว่าซะอีก จึงไม่แปลกใจที่ไอดอลของเขาจะมีทั้งวงหิน เหล็ก ไฟ, ดอนผีบิน, Silly Fools, Kiss รวมไปถึง Guns N’ Roses ด้วยเช่นกัน แต่ปัญหาของการทำวงนั่นคือการต้องหาสมาชิกให้ครบทุกตำแหน่ง ซึ่งมันกลายเป็นงานยากของแร็ปเอก ทำให้เขาตัดสินใจเบนเส้นทางจากร็อกเกอร์กลายมาเป็นแร็ปเปอร์แทน “เมื่อก่อนมีความฝันอยากมีวงเป็นของตัวเอง แต่หาไม่ได้เลยคิดว่าออกเดี่ยวไปเลยดีกว่า เพราะมันจะใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น ก็เลยตัดสินใจมาเป็นแร็ปเปอร์ครับ” ดูเหมือนว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตที่ทำให้อดีตหนุ่มพนักงานประจำได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าชีวิตนี้ต้องเป็นแร็ปเปอร์ เขาจึงลงมือเขียนเพลงที่พรีเซนต์ตัวตนออกมาโดยใช้ชื่อว่าเพลง “แร็ปเอก”
ดนตรีมักจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันเสมอ เช่นการออกกำลังกาย ที่เรามักจะเซตเพลย์ลิสต์กับบีตดนตรีให้เหมาะสมกับจังหวะการเคลื่อนที่ รวมไปถึงเวลาเข้าร้านสปาเรามักจะได้ยินเพลงที่เต็มไปด้วยเสียงธรรมชาติเมื่อไหร่ที่ได้ฟังก็มักจะรู้สึกผ่อนคลายตามไปด้วย ล่าสุดมีผลวิจัยใหม่เกี่ยวกับเสียงและอารมณ์ครั้งใหม่ออกมา นั่นคือ “Binaural Beats” หรือคลื่นเสียงบำบัดสมอง มีผลทำให้สมองออกฤทธิ์ get high ได้คล้ายตอนเสพยาเสพติด ซึ่งกลายเป็นข้อมูลใหม่เนื่องจากเมื่อปี 2020 มีการระบุว่า Binaural Beats ไม่มีผลต่ออารมณ์แต่อย่างใด ผลการวิจัยล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2022 โดยทาง RMIT University มหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรเลียได้จัดทำหัวข้อ “Who Uses Digital Drugs? An International Survey of ‘Binaural Beat’ Consumers” ที่ได้โชว์ให้เห็นถึงข้อมูลผู้ทำแบบสอบถาม Global Drug Survey ของปี 2021 พบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ Binaural Beats ในการผ่อนคลายเพื่อนอนหลับทั้งหมด 72%, ใช้เพื่อเปลี่ยนอารมณ์ 35% และใช้เพื่อให้เกิดอาการคล้ายยาหลอนประสาทอีก 12% โดยจังหวะและคลื่นความถี่ของเสียงมักจะมีชื่อของตัวยากำกับเอาไว้เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกฟังตามความพึงพอใจของตัวเอง
หากพูดถึงเพลง “Do I Wanna Know?” ของวง Arctic Monkeys คุณจะนึกถึงอะไรบ้าง แน่นอนว่าคงจะต้องนึกถึงริฟฟ์กีตาร์เท่ ๆ เสียงยาน ๆ สไตล์สโตนเนอร์ที่มีกลิ่นอายของดนตรีบลูส์ จะให้บอกว่าเป็นตัวชูโรงของเพลงนี้ก็คงไม่ผิดแต่อย่างใด หรือจะเป็นจังหวะดนตรีที่ชวนดีดนิ้วตามก็ถือว่าเป็นสเน่ห์อีกอย่างที่ถูกสอดแทรกเข้าไป หรือจะเป็นเสียงร้องที่สะกดคนฟังได้อยู่หมัด ทั้งหมดทั้งมวลคือส่วนผสมอันลงตัวจนทำให้เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซของ Arctic Monkeys ในที่สุด แต่กว่าเพลงนี้จะถูกออกมาสมบูรณ์แบบ มันก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่เช่นกัน ต้นขั้วมาจากเพลง “R U MINE?” “Do I Wanna Know?” ถูกปล่อยออกมาสู่โลกภายนอกเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2013 เป็นเพลงที่ 2 ที่ถูกนำมาโปรโมตจากอัลบั้ม “AM” ความน่าสนใจของเพลงนี้นอกจากดนตรี มันคือที่มาที่ไปที่มาจากเพลง “R U Mine?” ซึ่งก็เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม AM เช่นกัน เป็นแทร็กที่ 2 ต่อจาก “Do I Wanna Know?” แล้วทั้ง
หากให้พูดถึงศิลปินฮิปฮอปที่มีสกิลการแร็ปอันจัดจ้าน แน่นอนว่าชื่อของ Eminem ต้องปรากฎขึ้นมาชื่อแรกอย่างแน่นอน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันไม่ได้มาจากตัวศิลปินที่มาบอกประกาศเอง แต่คำตอบมันมาจากการตอบรับของแฟนเพลงนั่นเอง และนี่คือ 5 เพลงท็อปฮิตของ Eminem ที่ทำยอดวิวทะลุ 1 พันล้าน จะมีเพลงอะไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว 1.LOVE THE WAY YOU LIE (FEAT.RIHANNA) TOTAL : 2,375,481,170 VIEWS เข้ามาเป็นท็อปฮิตอันดับแรกแบบไม่ต้องคาดเดาให้ยาก ผลงานเพลงจากอัลบั้ม “Recovery” ที่ถูกนำมาโปรโมตเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ปี 2010 ความพิเศษของเพลงนี้คือการได้ Rihanna ศิลปินตัวแม่สาย R&B มาถ่ายทอดพลังเสียงที่สุดยอดลงตัวเข้ากับการแร็ปของ Eminem ได้เป็นอย่างดี ทั้งคู่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักที่ไม่ยอมแยกจากกันแม้จะอยู่ในความสัมพันธ์แบบทั้งรักทั้งเกลียดก็ตาม (love–hate relationship) ทาง Eminem เคยให้เหตุผลที่ต้องดึง Rihanna มาร้องเพลงนี้ไว้ว่า “มันเป็นหนึ่งในเพลงที่ผมรู้สึกว่ามีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถดึงอารมณ์ของเพลงออกมาได้ดีที่สุด” เท่านั้นยังไม่พอ MV
Linkin Park คือหนึ่งในวงร็อกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในวงการดนตรี พวกเขาประสบความสำเร็จกับทั้งยอดขายของซิงเกิ้ลและอัลบั้ม รวมถึงยังได้ออกเดินทางเพื่อเล่นคอนเสิร์ตไปทั่วโลก ถึงแม้ว่าวันนี้เราอาจจะไม่ได้เห็นการกลับมาของ LP อีกแล้ว แต่ผลงานที่ฝากเอาไว้มันยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง และหลาย ๆ เพลงก็มียอดวิวที่ถล่มทลายเกิน 1 พันล้านวิว เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 เพลงที่มียอดวิวในสูงสุดในยูทูปของ Linkin Park มีเพลงอะไรกันบ้าง 1. ”NUMB” 1,749,380,980 views/ Meteora (2003) แม้จะเป็นผลงานจากอัลบั้มที่ 2 แต่ยอดวิวกลับนำโด่งขึ้นมาอยู่อันดับ 1 สำหรับเพลง “Numbs” ที่ตัวดนตรีมาพร้อมสูตรฮิตกดอัลติของวงด้วยเมโลดี้จากคีย์บอร์ดที่กดวนอยู่ไม่กี่ตัวโน๊ต การแบ่งพาร์ตการร้องในเพลงนี้ก็ถูกดีไซน์มาให้จดจำง่าย เข้าสูตรเพลงป๊อปแบบ 100% และเน้นเสียงร้องแบบปกติเป็นหลัก ปราศจากท่อนแร็ปและท่อนสครีม แต่เนื้อหายังคงแสดงความเจ็บปวดในแบบ Linkin Park ได้เป็นอย่างดี จริง ๆ แล้วจะบอกว่าเพลงนี้คือเพลงบัลลาดแห่งยุคนูเมทัลก็คงไม่ผิดแต่อย่างใด 2. ”IN THE END” 1,332,958,650 views/ Hybrid Theory (2000) บทเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้
ตอนคุณอายุ 11 ปี คุณอาจจะนั่งอยู่หน้าจอคอมเพื่อเล่นเกมโปรด หรืออาจจะรอคอยตอนใหม่ของ One Piece อย่างใจจดใจจ่อ แต่ในอีกซีกโลก มีเด็กน้อยคนหนึ่งปรากฎตัวอยู่หลังกลองชุด โดยมีชาวร็อคกว่าหมื่นคนเป็นสักขีพยานในความสามารถอันโดดเด่นของเขา “พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกับตำนานที่น่าทึ่ง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วง The Beatles บ้าง Rolling Stones บ้าง Pink Floyd บ้าง แต่สำหรับคนนี้…แม่งไม่ใช่ว่ะ” Dave Grohl แห่งวง Foo Fighters ประกาศแนะนำแขกรับเชิญคนสำคัญในคอนเสิร์ตที่ The Forum เมือง แอล.เอ. เมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา “ขอเสียงเฮให้กับ “มือกลองที่โคตรเจ๋งที่สุดในโลก”…Nandi Bushell!!!” ต่อจากเสียงแนะนำของ Dave Grohl คือเสียงจากการหวดกลองสุดระห่ำในเพลง Everlong เพลงฮิตของ Foo Fighters หากคุณหลับตาจินตนาการถึงเจ้าของเสียงกลองนั้น คุณอาจจะคิดไปถึงมือกลองสุดเก๋าที่ผ่านการเล่นคอนเสิร์ตมาอย่างนับไม่ถ้วน แต่เมื่อคุณเปิดตาดู คุณจะแทบไม่เชื่อสายตา เพราะเจ้าของเสียงคำรามผ่านการรัวกลองคนนั้นกลับเป็นเด็กสาวอายุเพียง 11 ปี
การออกมาส่งเสียงเรียกร้องความยุติธรรม และความถูกต้องมันเป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนควรมี โดยเฉพาะในดินแดนที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยด้วยแล้ว เสียงของคนส่วนใหญ่นั้นคือสิ่งสำคัญ และเมื่อมีอะไรไม่ถูกต้องหรือข้อสงสัย ผู้คนก็ควรที่จะออกมาส่งเสียงทักถึงประเด็นที่ควรแก้ไขนั้นได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เพศอะไร รวยหรือจน คนก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องความถูกต้องและการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น ศิลปินคนดังระดับโลกมากมายตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันที่สามารถส่งเสียงได้ดังกว่าและไกลกว่าคนทั่วไป เมื่อต้องการเรียกร้องความถูกต้อง เราจึงเห็นการออกมาเป็นกระบอกเสียง หรือที่เราเรียก ‘Call Out’ จากคนมีชื่อเสียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ในยุคปัจจุบัน เรากลับได้เห็นผู้มีอำนาจสั่งให้ศิลปิน สื่อ หรือเหล่าคนดังหุบปาก ห้ามออกมาวิจารณ์ และห้ามแสดงความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ที่กระเทือนภาพลักษณ์ของรัฐบาล รวมถึงห้ามเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็น่าตลกที่เวลาหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ทำโครงการช่วยสังคมเพียงนิดหน่อย กลับจ้างศิลปินเหล่านี้มาช่วยกันตะโกนโปรโมทกันปาว ๆ มันช่างย้อนแย้งซะจริง ๆ การ Call Out ในอดีตเกิดขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ยกตัวอย่างเช่น การต่อต้านการเหยียดสีผิว ต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ ต่อต้านการเหยียดเพศ ต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ ต่อต้านสิ่งเหลื่อมล้ำต่าง ๆ ที่ไม่ยุติธรรม ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่เหล่าศิลปินนักดนตรีเท่านั้น แต่นักกีฬาชื่อดัง นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ของ Hollywood ก็มักจะออกมาสนับสนุน และเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้องกันอย่างเสรีโดยไม่มีใครมาห้าม ตั้งแต่เริ่มมีการประท้วงของชาวนาในประเทศอังกฤษที่มีต่อระบบศักดินา ไปจนถึงการประท้วงครั้งใหญ่ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน คนมีชื่อเสียง ศิลปิน นักดนตรี
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ทำให้หลายคนจิ้นไปตาม ๆ กัน เมื่อ John Mayer ได้ส่ง PRS Silver Sky (สี Roxy Pink) กีตาร์ซิกเนเจอร์ของเขาให้กับ Rose หนึ่งในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี Blackpink หลังจากที่เธอได้โชว์พลังเสียงและความสามารถด้านดนตรีในการโคเวอร์เพลง ‘Slow Dancing in a Burning Room’ กลางรายการ ‘Sea of Hope’ แม้ก่อนหน้านี้ Mayer จะเคยส่งกีตาร์ให้นักดนตรีคนอื่นอย่าง Tomo Fujita แต่เมื่อเราเห็น Rose อัพภาพของกีตาร์ที่ Mayer ส่งให้ลงเธอไอจีสตอรี่ พร้อมเขียนแคปชั่นว่า ‘Life is complete’ ก็ทำให้เราแอบคิดไปไกลเหมือนกัน และอยากพาทุกคนไปรู้จักเจ้ากีตาร์ตัวนี้ให้มากขึ้น Silver Sky เป็นหนึ่งในกีตาร์ที่ทางบริษัทเครื่องดนตรีชั้นนำอย่าง Paul Reed Smith (PRS) พัฒนาร่วมกับ John Mayer เป็นเวลากว่า 2
จากดนตรีอินดี้หัวก้าวหน้าที่มาเพื่อโค่นดนตรี Punk รุ่นแรก ที่นักวิจารณ์กล่าวขานว่าเป็น “คลื่นลูกใหม่” เพราะอะไรดนตรีขบถของคนรุ่นก่อน ถึงย้อนเข็มนาฬิกากลับมาอินอีกครั้งในยุคนี้ มาทำความรู้จักแนวดนตรีที่เปรียบดั่งความหวังของทศวรรษใหม่ไปพร้อมๆกัน Post-Punk / New Wave Then – The Birth of Post-Punk แนวดนตรี Post-Punk นั้นเกิดขึ้นจากจากการต่อต้านดนตรี Punk ในยุคปลายทศวรรษที่ 70s เหตุจากวง Punk เหล่านั้น ที่มีหัวหอกอย่าง Sex Pistol / The Clash / The Damned นั้นมักจะหัวรุนแรง กักขฬะ และขวางโลกอย่างไร้อารยะ แถมบางวงยังใช้ความ Punk เล่นดนตรีราวกับคนเล่นดนตรีไม่เป็น เน้นทำตัวแปลกแยกสังคมก็ดังแล้ว กลุ่มนักดนตรีกลุ่มหนึ่งที่มีแนวคิดต่อต้านสังคมเช่นกัน แต่มีความสนใจในศิลปะ และความลุ่มลึกทางดนตรีที่มากกว่า จึงตั้งใจทำดนตรีที่อาร์ต มีความใส่ใจทางดนตรีอันซับซ้อนที่วง Punk ที่เน้นแต่ความรุนแรงสั้นกระชับจนเกินไปให้ไม่ได้ แถมยังเปิดกว้างในแนวทางที่หลากหลายและกว้างขวาง แนวเพลง Post-Punk คือ Punk
สำหรับคอเพลงที่รักการสะสม โดยเฉพาะคนที่หลงไหลในความสวยงามของแผ่นเสียงนั้น น่าจะรู้จักวันแห่งการอุดหนุนแผ่นเสียงในร้านโลก หรือ Record Store Day ซึ่งครั้งนี้ก็จัดมาเป็นครั้งที่ 14 แล้ว สำหรับคอเพลงที่ยังไม่รู้จักวันนี้ดี Unlockmen ขอพาคุณสู่โลกที่คุณจะได้เป็นแฟนตัวยงของการเล่นแผ่นเสียงอีกขั้น ส่วนคอเพลงที่รู้จักวันสำคัญแห่งชาติวันนี้แล้ว ก็เตรียมกระเป๋าสตางค์ฉีกได้เลย เพราะคอลเล็คชั่นของปีนี้ เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว THE BIRTH OF RECORD STORE DAY หลายคนคงเดาไปต่าง ๆ นานาว่า วันชาติสำหรับนักฟังเพลงวันนี้ คงจะเกิดมาจาก MP3 นวัตกรรมที่มีทั้งประโยชน์ และโทษมหันต์ ได้ถือกำเนิดขึ้นและทำลายอุตสาหกรรมเพลงยุคเก่าจนย่อยยับ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม MP3 หาได้เป็นต้นตอสำคัญในการเกิดวันสำคัญวันนี้ไม่ เพราะเอาเข้าจริงนักฟังเพลงตัวยงก็ยังคงสนับสนุนผลงานของศิลปินที่เขารักอยู่ หากแต่สาเหตุหลักที่เกิดวัน RSD หรือ Record Store Day นั้นมาจากที่ร้านค้าย่อยที่มักจะถูกละเลยจากแฟนเพลง เพราะธุรกิจร้านแผ่นเสียงซีดีในยุคหนึ่งนั้นมักจะผูกขาดกับร้านค้ารายใหญ่ หรือแฟรนไชส์ที่มีกำลังทรัพย์ และสาขาที่เยอะกว่า ร้านค้าย่อย และร้านแผ่นเสียงอินดี้จึงประสบสภาวะฝืดเคือง แถมเคราะห์ซ้ำกรรมซัดที่การมาของดิจิตอลมิวสิคในยุคมิลเลนเนียมนั้น ยิ่งทำให้ร้านแผ่นเสียงมากมายจำต้องปิดกิจการลง ซึ่ง Chris Brown แห่ง