Work
IMPROVE YOURSELF
  • Work

    ฟังเพลงให้งานเดิน ต้องเข้าใจว่าดนตรีตอนไหนมีผลอย่างไรกับสมอง

    By: Chaipohn April 26, 2019

    ร้อยทั้งร้อยคนทำงาน ต้องผ่านการฟังเพลงขณะทำงานกันมาแล้ว แต่บางคนอาจจะสงสัยว่าเหตุใดบางครั้งฟังเพลงไป ทำงานไป แล้วได้งานดีเหลือเกิน แต่ในบางทีฟังเพลงไป ทำงานไปเหมือนเดิม แต่งานไม่เกิด ไอเดียไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที ทำให้หลายคนโต้เถียงกันว่าสรุปแล้วฟังเพลงทำงานเป็นผลดีหรือแย่ลงกว่าเดิม แน่นอนว่าทุกการโต้เถียงย่อมมีวิทยาศาสตร์เป็นกรรมการคอยตัดสิน เรื่องดนตรีกับการทำงานก็เช่นกัน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า ฟังเพลงในสถานการณ์ไหน มีผลกับสมองตอนทำงานอย่างไร และเราควรจะฟังเพลงยังไงให้งานวิ่งฉิว นึกภาพว่าเรากำลังนั่งอยู่ในออฟฟิศตามปกติ นึกภาพสิ่งแวดล้อมที่อาจจะมีทั้งวันที่มีเสียงรบกวนจากเพื่อนร่วมงาน นึกภาพโจทย์งานที่ได้รับในแต่ละวัน แล้วดูไปด้วยกันทีละสถานการณ์ว่าก่อนจะกด Play ฟังเพลงให้ได้ประโยชน์สูงสุดในแต่ละสถานการณ์นั้นต้องทำอย่างไร ต้องใช้สมองคิดไอเดีย วิเคราะห์ แยกแยะ -> ปิดเพลง ในการทำงานที่ต้องใช้สมองหนัก ๆ สำหรับคิดงาน ต้องจดจำรายละเอียดต่าง ๆ หรือต้องเรียนรู้ Instruction สำคัญ ๆ ซึ่งสมองต้องตั้งใจและใช้พลังงานในการทำงานมากอยู่แล้ว การฟังเพลงไปด้วยจะยิ่งทำให้สมองต้องแบ่งพลังงานมาใช้ในการประมวลผลดนตรีอีก ซึ่งการทำงานที่ Multitasking มากเกินไปของสมองจะทำให้มันจดจำได้ไม่ดีอย่างที่ควร หรือคิดงานได้ไม่เฉียบขาดเพราะมีรายละเอียดบางอย่างหลุดหายไป แบบที่เราต้องอ่านโจทย์วนไปวนมานั่นแหละ เมื่อมี Instruction เข้ามาที่สมองมากไป ทำให้มันจดจำรายละเอียดที่ไม่สำคัญมาแทนบ้าง หรือจำสลับกันบ้าง ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดเมื่อเราต้องทำงานที่ใช้สมองหนัก ๆ คือใส่หูฟังได้ แต่อย่าเพิ่งกด Play เลยจะดีกว่า ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาแทนที่

    อ่านต่อ
  • Work

    ไปทำงานหรือไปสู้รบกับคน! “องค์กรที่ไม่มีพื้นที่ปลอดภัยทางใจ”ทำให้คนทำงานห่วย

    By: PSYCAT April 18, 2019

    “หากปราศจากความเชื่อใจ ความเป็นทีมก็ไร้ความหมาย” Paul Santagata ผู้เป็น Head of Industry แห่ง Google กล่าวไว้แบบนี้ และเราก็เห็นด้วยแบบปราศจากข้อกังขา คำพูดนี้ยังเชื่อมโยงกับทีมที่ทำงานมีประสิทธิภาพสูง ๆ ส่วนใหญ่มีสิ่งหนึ่งที่ตรงกันคือ “ความรู้สึกมั่นคงทางใจ” ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า“ความมั่นคงทางใจ”เชื่อมโยงกับความคิดสร้างสรรค์ การกล้าพูด กล้าคิด กล้าทำ ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าที่ทำงานที่เรามัวแต่กลัว กังวล ไม่มั่นใจว่าพูดอะไรก็ผิด พูดอะไรก็โดนต่อว่า โดนจ้องโจมตีตลอดเวลา จนเราไม่สามารถเชื่อใจหรือมั่นใจได้อีกต่อไป สมองเราจะค่อย ๆ หยุดกระบวนการคิดหรือสร้างสรรค์ไปแล้วเอาแต่คิดว่าทำยังไงถึงจะเอาชนะได้เท่านั้น ซึ่งถ้าทุกคนในทีมคิดแต่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ก็คงไม่ต้องพูดถึงคุณภาพงานอีกต่อไปว่ามันจะห่วยลงแค่ไหน “ตื่นไปทำงานหรือตื่นไปรบ?” ถามตัวเองก่อนจะสายเกินไป ในทางกลับกัน ถามตัวเองสิว่าวันนี้เราตื่นขึ้นมาไปทำงานด้วยความรู้สึกแบบไหน? ถ้ามีความสุขเต็มเปี่ยมอยากไปทำงานที่รักเต็มที่ดีใจด้วยที่คุณรู้สึกมั่นคงทางใจกับงานตรงหน้า แต่ถ้ากำลังรู้สึกว่าการทำงานไม่ต่างอะไรจากการเดินเข้าสนามรบหรือสังเวียนต่อสู้ ต้องไปฟาดฟันเอาชนะกับเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าอย่างหนักตลอดเวลา แถมเป็นการสู้ที่ไม่ได้เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า แต่คล้ายว่าต้องสู้เพื่อหาว่าใครแพ้ใครชนะ ใครผิดใครถูกตลอดเวลา เสียใจด้วยคุณอาจกำลังอยู่ในทีมที่ไม่มีพื้นที่ปลอดภัยทางใจให้ และมันคือส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของคนทั้งทีมห่วยลง! แต่อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไป ทุกปัญหามีทางออก ในเมื่อเรารู้แล้วว่า“ความรู้สึกมั่นคงทางใจ”เป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้ทีมทำงานได้มีประสิทธิภาพ เรายิ่งต้องสร้างพื้นที่และบรรยากาศการทำงานให้เป็นแบบนั้น เพราะไม่ว่าจะอยู่ในฐานะหัวหน้างาน คนทำงาน หรือตำแหน่งไหน เราทุกคนล้วนเป็นส่วนหนึ่งของทีมและองค์กรทั้งนั้น องค์กรควรจะเป็นพื้นที่ที่ทำให้คนทำงานรู้สึกท้าทาย แต่ไม่ใช่รู้สึกไม่ปลอดภัย พร้อมปะทะและเอาอีกฝ่ายให้ถึงตายตลอดเวลา ถ้าอยากสร้างความมั่นคงทางใจไม่ใช่สนามรบ

    อ่านต่อ