หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานประกาศรางวัลลูกโลกทองคำครั้งที่ 78 คือ การประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ประเภทภาพยนตร์ดรามา) ซึ่งคือ แชดวิก โบสแมน (Chadwick Boseman) ดาราฮอลลีวูดผู้มีผลงานชิ้นโบว์แดงอย่างบทบาท เจ้าชายทีชัลลาในซีรีส์หนังมาร์เวลเรื่อง ‘Black Panther’ ซึ่งได้จากเราไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปีที่แล้ว คราวนี้เขาได้รับรางวัลจากการแสดงในภาพยนตร์เรื่อง ‘Ma Rainey’s Black Bottom’ และภรรยาของเขา Simone Ledward Boseman เป็นคนขึ้นรับรางวัลแทน พร้อมกล่าวสปีชที่ซาบซึ้งกินใจ “He would say something beautiful, something inspiring, something that would amplify that little voice inside of us that tells us you can, that tells you to keep going, that
เจ้าหน้าที่สาวค่อย ๆ เดินเข้าไปยังห้องขังที่คราคร่ำไปด้วยนักโทษคดีพิสดารมากมาย แต่ในห้องที่ลึกที่สุดกลับกักขังผู้ชายที่อันตรายที่สุดเอาไว้ในห้องนิรภัยที่มีล็อกไว้อย่างแน่นหนา ยิ่งเธอค่อย ๆ เดินเข้าไป รังสีอำมหิตก็ค่อย ๆ แผ่ซ่านคืบคลานมาใกล้ จนเธอเดินไปยังจุดหมาย เพียงแค่สายตาของเขาที่จับจ้องมา ก็จู่โจมจนเธอชะงักงัน ทั้ง ๆ ที่มีกระจกนิรภัยอันหนาแน่นกั้น แต่สัมผัสได้ถึงการคุกคามจนยากที่ขยับเขยื้อนตัวไปไหนได้ แววตาอันแข็งกร้าวภายใต้น้ำเสียงอันทุ้มนุ่มลึกนี้ สร้างความหวาดกลัวให้กับนักอ่านและคอหนังมาแล้วถึง 4 ทศวรรษ UNLOCKMEN ขอนำคุณไปทำความรู้จักกับฆาตกรอัจฉริยะ Hannibal Lecter ที่สร้างตำนานความโหดและความเฉลียวฉลาดผ่านหนังและซีรีส์มาอย่างมากมาย เพื่อรับรู้ว่า เขาคือวายร้ายที่โลกรักที่สุดในโลกภาพยนตร์ Dr. Hannibal Lecter โลดแล่นบนหน้ากระดาษผ่านนวนิยายฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน ตั้งแต่ปี 1981 โดยผู้ประพันธ์ Thomas Harris ได้แรงบันดาลใจของฆาตกรสุดอำมหิตแต่ฉลาดเป็นกรดนี้มาจากการที่เขาได้ทำงานเป็นนักข่าวให้กับนิตยสาร Argosy และมีโอกาสได้สัมภาษณ์ฆาตกรโรคจิตรายหนึ่งที่ถูกผู้คุมยิงได้รับบาดเจ็บจากการหลบหนี ณ เรือนจำรัฐ Nuevo León ในระหว่างที่ทำการสัมภาษณ์นั้น Thomas ก็ได้พบหมอที่ให้การรักษา Dr. Alfredo Ballí Treviño ที่ใครต่อใครในนั้นเรียกหมอคนนี้ว่า “Dr.Salazar” ชายผมแดงตัวเล็กท่าทางสุภาพคนนี้ อธิบายการรักษา
แม้จะผ่านปี 2021 มาแล้ว 2 เดือน แต่สถานการณ์ของวงการหนังก็ยังไม่สู้ดีนัก โดยเฉพาะโรงหนังที่ยังไม่มีสตูดิโอไหนกล้าที่จะปล่อยหนังเด็ดหนังใหญ่ให้ได้ดูกันแบบปกติเหมือนปีก่อน ๆ เช่นเคย แต่ช้าก่อน…ถึงแม้บางคนยังไม่กล้าที่จะดูหนังในโรง แต่สตรีมมิ่งอย่าง Netflix ก็ยังเสนอความร้อนแรงผ่านหนังหลากหลายให้ได้ชมกันเช่นเดิม และในเดือน มีนาคม 2021 นี้ Netflix ก็ยังมีหนังดี ๆ หลากแนว หลายรูปแบบให้ชม ทั้งสารคดี / หนังแอ๊คชั่น ไปยันหนังตลกก็มีให้ชมอย่างจุใจ แถมยังมีหลายสัญชาติให้คอหนังได้ลองลิ้มชิมรสชาติที่แตกต่างอีกด้วย ไปดูกันว่าเดือนนี้ มีหนังอะไรเด็ด ๆ ที่ UNLOCKMEN ภูมิใจเสนอให้ดูกันบ้าง เริ่มต้นด้วยสารคดีที่เล่าถึงแร็ปเปอร์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญให้กับวงการ Hip Hop ก่อนถูกลอบสังหารอย่างเป็นปริศนาที่ค้างคาใจครอบครัวมาตลอด 24 ปี หนังเล่าเรื่องของ Christopher George Latore Wallace หรือ ฉายา Biggie Smalls ที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ๆ และเกือบจะได้เป็นศิลปินแจ๊ส ก่อนชีวิตจะหักเหไปสู่หนทางแห่งการค้ายา อำนาจ และพลังแห่งดนตรี
ช่วงเวลานี้ ในแวดวงดนตรีคงไม่มีอะไรข่าวอะไรที่ช็อควงการเท่ากับการยุติบทบาททางดนตรีของ Daft Punk คู่หู Robot Electro ที่บอกลาความยิ่งใหญ่ตลอด 28 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ยุค 90’s จวบจนปัจจุบัน แต่ถึงแม้จะเป็นการอำลาที่แสนเศร้า แต่ผลงานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์ตัวตนของพวกเขาแล้วว่ายิ่งใหญ่ขนาดไหน และวันนี้เราจะมาสรุปว่ามีบทเรียนอะไรบ้างที่พวกเราควรยึดถือความเจ๋งของ Daft Punk เป็นแบบอย่าง Pre – Daft Punk – Darlin’ (1992-1993) จุดเริ่มต้นของ Daft Punk ไม่ใช่ Duo แต่เป็น Trio อาจจะแปลกและแตกต่างกับวงอื่น ๆ ไปสักหน่อย ที่ร่องรอยการเริ่มต้นของพวกเขานั้นหาได้เริ่มต้นจากดนตรีสังเคราะห์ไม่ แต่ Thomas Bangalter ได้ชักชวนเพื่อนซี้ที่เรียนมัธยมมาด้วยกันอย่าง Guy-Manuel de Homem-Christo และสมทบด้วยเพื่อนนักดนตรีอีกคนที่สมัครเข้ามาภายหลังอย่าง Laurent Brancowitz โดย Laurent Brancowitz ได้กล่าวถึงการเจอคู่หูทางดนตรีคู่นี้ในวันแรกกับรายการวิทยุ BBC ว่า “ผมเห็นป้ายประกาศรับนักดนตรีที่ร้านขายแผ่นเสียง ผมเลยตามไปสมัคร โดยที่ผมได้เจอกับ
ถึงแม้ดนตรี Rock & Roll ในช่วงแรกเริ่มจะเป็นเหมือนเด็กหัดคลาน เนื่องจากยังไม่สามารถแยกออกจากดนตรีดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็น R&B / Country หรือ Blues ได้ และกว่าที่ดนตรีร็อคจะเริ่มจากตั้งไข่เป็นเดินเตาะแตะ กาลเวลาก็หมุนมาหยุดที่ปี 1955 ที่เรียกได้ว่าเป็นการตัดริบบิ้นเปิดตัวดนตรี Rock & Roll อย่างเป็นทางการ และได้ถือกำเนิดบรรพบุรุษแห่งดนตรี Rock พร้อมกันถึง 3 คนในปีนั้นโดยมิได้นัดหมาย โดยที่ทั้ง 4 ไม่เพียงแต่จะเป็นบรรพบุรุษผู้ปลุกกระแสดนตรีโยกคลึงให้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญแห่งดนตรีโลก คนแรกที่ UNLOCKMEN อยากแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จัก ก็คือร็อคสตาร์ที่เริ่มต้นไขลานนาฬิกาให้โลกได้รู้จัก Rock & Roll นั่นก็คือ Bill Haley & His Comets นั่นเอง ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่การบกพร่องทางการมองเห็น ไม่อาจกั้นขวางความเท่ที่เขามีต่อสาว ๆ ทั่วทั้งโลก แม้แต่ควีนอลิซาเบธก็ยังพ่ายให้เสน่ห์ของเขา ชายหนุ่มผู้ทำให้ดนตรี Rock & Roll ที่สดใหม่ในยุคนั้นมีชีวิตชีวาและเป็นบทเริ่มต้นสำคัญที่ยิ่งใหญ่เหนือกว่าดนตรีแนวอื่นๆทั้งหลายทั้งปวง อุบัติเหตุที่ผิดพลาด ผงาดพรสวรรค์ประจักษ์
ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่าช่วงนี้กระแสของเหล่าแก๊งมาเฟียกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข่าวรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเพิ่งออกจากคุกมาหมาด ๆ หรือภาพยนตร์มาเฟียเรื่อง The Irishman ของผู้กำกับดังออกฉายพร้อมกวาดรางวัลจากเวทีไปแล้วนับไม่ถ้วน ไปจนถึงเรื่องราวของแก๊งนักเลงปลายแถวจากย่านเบอร์มิงแฮมของเกาะอังกฤษที่นำมาสร้างเป็นซีรีส์เรื่อง Peaky Blinders ทั้งหมดสามารถโหมกระแสโลกผู้ชายให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ในวันนี้ UNLOCKMEN ไม่ได้มาเล่าถึงเรื่องราวในซีรีส์ของ Peaky Blinders แต่เน้นการเจาะลึกด้านแฟชั่นอันโดดเด่นของ Thomas Shelby กับชาวแก๊งของเขาว่าเพราะอะไรที่ทำให้ผมสั้นเกรียนเกือบทั้งหัว เสื้อโค้ตยาว หมวกรุ่นคุณปู่แสนเชย และมวนบุหรี่ถึงเท่มากเมื่ออยู่ในหนังเรื่องนี้ WHAT IS ‘PEAKY BLINDERS’ ? ย้อนกลับไปในเกาะอังกฤษคริสต์ศตวรรษที่ 19 ช่วงเวลาแห่งรอยต่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 ใครหลายคนไม่คาดคิดว่าโลกจะกลายเป็นสนามรบอีกครั้ง อังกฤษกำลังเจริญทางด้านอุตสาหกรรมแบบสุด ๆ แต่กลับไม่ใช่ทุกคนจะร่ำรวย ยังมีคนตกงานจำนวนมาก ชนชั้นแรงงานทำงานหนักเพื่อแลกกับเงินจำนวนน้อยนิด เกิดอาชญากรรมบ่อยครั้งในย่านที่ไม่ค่อยได้รับการใส่ใจ Peaky Blinders เป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากบุคคลที่มีตัวตนจริงในอังกฤษช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่ในชีวิตจริงพวกเขาเป็นแก๊งอันธพาลเล็ก ๆ ในเมืองเบอร์มิงแฮม สมาชิกของกลุ่มส่วนใหญ่เป็นเยาวชนแต่งตัวจัดจ้าน จากคำบอกเล่าของผู้คนบอกว่า ชาวแก๊งบางคนมีแต่กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง เดินเตร่ไปมาบนถนน ไม่ได้มีอำนาจล้นมือมากขนาดนั้น
“เพลงอะไร เพราะดี ไม่เคยฟังมาก่อน” คือคำพูดที่ชวนให้คนรุ่นใหม่ต้องแสลงหู เมื่อเราลองให้คนอายุ 30 ปีขึ้นไปบางกลุ่มลองฟังเพลงใหม่เหล่านี้ กว่า 80% มักจะไม่อินกับเพลงใหม่ และเราก็ได้ค้นพบงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ตั้งสมมติฐานอันน่าสนใจว่า “เรามักจะหยุดรับเพลงใหม่ตอนอายุ 30 ปี” โดยงานวิจัยนี้ได้ค้นพบในปี 2015 บล็อก Skynet & Ebert จากการสำรวจข้อมูลจากผู้ฟัง Spotify จำนวน 1,000 คน แม้ข้อมูลนี้จะผ่านมาเนิ่นนานถึง 6 ปีแล้ว แต่ข้อมูลยังคงน่าสนใจและยังใช้ได้จนถึงปัจจุบัน ว่าเพราะเหตุใดเราถึงหยุดการอัพเดทเพลงใหม่ทั้งๆที่ในปัจจุบันเทคโนโลยีต่างพากันผลักดันให้การฟังเพลงนั้นชิดใกล้เพียงปลายนิ้วสัมผัส Unlockmen จึงขอย่อยงานวิจัยอันยุ่งเหยิงเหล่านี้ให้ชวนเข้าใจกันง่ายๆดังต่อไปนี้ ในงานวิจัยพบว่าวัยรุ่นในวัย 12-22 ปี สมองจะตื่นตัวต่อการตอบรับสิ่งใหม่ ๆ ได้ดี ในขณะที่คนอายุ 30 ขึ้นไป หากเปรียบสมองเป็นฟองน้ำ พวกเขาก็รับประสบการณ์ต่าง ๆ จนบวมน้ำกันไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกหากเราจะหยุดรับข้อมูลใหม่ ๆ ไปซะดื้อ ๆ ซึ่งในการวิจัยนี้ได้ย่อยลึกลงไปอีกว่า อายุที่มากที่สุดที่สนใจในการค้นหาเพลงใหม่ คืออายุ 24 ปี และโดยเฉลี่ย
ช่วงนี้กระแสของการเล่น SurfSkate & Skateboard กลายเป็นเทรนด์ฮิตอย่างมาก ไม่เพียงแค่หมู่วัยรุ่นเท่านั้น แม้แต่วัยทำงานที่เคยมองผ่านกีฬา Extreme ชนิดนี้ในยุครุ่งเรืองก็เล่นกันให้เต็มบ้านเต็มเมืองเลยทีเดียว เหล่า celeb ที่โหมจนเซิร์ฟบกกลายเป็น Mega เทรนด์ใหม่ รวมไปถึงเด็ก ๆ ต่างก็พากันจับจองพื้นราบพื้นเนินตามสวนสาธารณะ เพื่อเล่นกีฬาสุดฮิตนี้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อปล่อยตัวไปตามไปตามแรงลมและลู่ล้อแห่งความอิสระเสรี เรามาดูวิวัฒนาการผ่านหนัง Surf Skate & Skateboard ที่แม้บางเรื่องจะหาดูยาก แต่ก็ไม่เกินความสามารถในการรับชมได้ทาง Internet และบางเรื่องก็บันทึกช่วงเวลาสำคัญแห่งนักสเก็ตบอร์ดชื่อดังในตำนาน UNLOCKMEN ไม่อยากให้คุณพลาดกับที่สุดของหนังเหล่านี้ ถ้าพร้อมแล้ว ไถหน้าจอแล้วไปหาดูกันได้เลย คุณูปการสำคัญสำหรับ Skaterdater คือหนังที่ได้รับการบันทึกว่า “เป็นหนังสเก็ตบอร์ดเรื่องแรกของโลก” หนังสั้นไร้ไดอะล็อคเรื่องนี้ บันทึกภาพของเหล่าเด็กสเก็ตเท้าเปล่าที่โชว์ความโลดโผนบนท้องถนน ผ่านสายตาผู้คนในชุมชนมากมายที่บ้างมองด้วยความทึ่ง บ้างมองด้วยความดูถูกดูแคลน แต่หนุ่มน้อยคนหนึ่งในแก๊งกลับผ่าเหล่าเมื่อเขาได้ชนกับเด็กสาวที่ขี่จักรยานโดยบังเอิญ จนกลายเป็นความรัก / ความขัดแย้งของกลุ่ม / การแบทเทิ่ล และการเรียนรู้ของชีวิตในแบบ Coming-of-Age จนเรียกได้ว่าเป็น “แฟนฉัน” ฉบับ Skateboard ได้เลย หนังสั้นเพียง 15
เพราะกระบวนการทำหนังนั้นมีผู้เกี่ยวข้องที่หลากหลายกว่าจะเสร็จสิ้นจนเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบให้ทุกคนได้รับชมกัน ซึ่งหัวเรือใหญ่ที่นำพาให้หนังเรื่องหนึ่งถึงฝั่งได้สำเร็จนั้นเป็นที่เข้าใจกันว่า “ผู้กำกับภาพยนตร์” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ถูกเพียงแค่ครึ่งเดียว หากแต่กระบวนการสุดท้ายที่แท้จริงนั้นจะตกอยู่กับทั้ง สตูดิโอผู้สร้าง, นายทุน (Executive Producer) และผู้อำนวยการสร้าง (Producer) ที่มีสิทธิ์อันชอบธรรมในการนำเสนอภาพยนตร์ไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย และเป็นข้อตกลงปกติที่ผู้กำกับจะรับทราบและปล่อยผ่านให้ 3 ตำแหน่งนี้มีสิทธิ์เด็ดขาดในการควบคุมหนังในวินาทีสุดท้ายก่อนฉายให้ได้ชมกัน จึงมีหนังหลายต่อหลายเรื่องที่ท้ายที่สุดอาจจะออกมาไม่ถูกใจผู้กำกับ และจำยอมต้องให้หนังเรื่องนี้ออกฉายไปด้วยความจำยอม ซึ่งส่วนใหญ่ข้อพิพาทระหว่างผู้กำกับกับผู้อำนวยการสร้างและนายทุน ไม่พ้นความยาวของหนังที่ยาวกว่าปกติจนต้องหั่นสั้นเพื่อให้ฉายทำรอบได้ หรือการตีความใหม่ของผู้กำกับที่ลึกล้ำเกินกว่าคนทั่วไปจะเข้าถึง ซึ่งทำให้บางเรื่องเมื่อถูกบิดเบือนไปจากผู้กำกับ ก็นำมาซึ่งหายนะทางตารางทำเงิน ไปจนถึงการโห่ไล่ของนักวิจารณ์และแฟน ๆ จนเกิดทางเลือกใหม่ของนักดูหนัง นั่นก็คือหนังฉบับ Director’s Cut ที่ออกฉายที่หลังแต่เป็นความตั้งมั่นและสาสน์ของผู้กำกับที่ต้องการเล่าเรื่องในแบบที่เขานั้นต้องการโดยไม่ผ่านเงื่อนไขทั้งในเรื่องความยาวหรือการตีความในเชิงศิลปะ ดังเช่นผู้กำกับคนดังอย่าง Zack Snyder ต้องการบูรณะหนัง Justice League หลังจากที่บทวิจารณ์ในช่วงฉายใหม่ ๆ ไม่ค่อยสู้ดีนัก ก่อนที่เราจะไปชมที่มาของซีรีส์ขนาดยาวของ Justice League เรามาย้อนดูหนังที่ผู้กำกับบูรณะใหม่แล้วปังเพื่อดูแนวคิดของพวกเขากัน และคุณจะรู้ว่า หนังฉบับ Director’s Cut นั้นมีคุณค่ากว่าที่คุณคิด หนังคาวบอยที่ทิ้งทวนยุคสมัยของฮีโร่บนหลังม้าที่มักจะเสนอแต่ภาพฮีโร่โรแมนติก แต่ Sam Peckinpah ผู้กำกับจอมซาดิสต์กลับมองว่า “หนังที่ยิงกันเลือดไม่สาด มันจะสวยสดงดงามได้ยังไงวะ” ว่าแล้วก็จัดหนักให้กลายเป็นหนังคาวบอยที่ปฏิวัติรูปโฉมของโลกตะวันตก
หนึ่งในการโจรกรรมเหนือเวหาระดับตำนานจากยุค 70 ที่ผ่านกาลเวลายาวนานกว่าสองทศวรรษ แต่ยังคงถูกพูดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ในฐานะคดีลึกลับของชายที่ใช้นามแฝง “D. B. Cooper” ก่อเหตุจี้เครื่องบินเรียกเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล และหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอยจน FBI ไม่สามารถไขคดีได้จนถึงปัจจุบัน ย้อนกลับไปในช่วงบ่ายของวันที่ 24 พฤศจิกายน ค.ศ. 1971 มีชายผิวขาววัยกลางคน บุคลิกสุขุมเงียบขรึม ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเนคไทสีดำ และสวมเสื้อสูทสีดำเหมือนนักธุรกิจ เขาเดินตรงมาที่เคาน์เตอร์ของสายการบินนอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ (Northwest Airlines) เขาใช้เงินสดซื้อตั๋วเที่ยวบิน 305 ที่มุ่งหน้าไปยังซีแอตเทิล เมืองท่าชายฝั่งในรัฐวอชิงตัน ภายใต้นามแฝง แดน คูเปอร์ (Dan Cooper) เครื่องบินลำดังกล่าวคือเครื่องโบอิ้ง 727 เขาเลือกนั่งในตำแหน่ง 18C ที่ด้านหลังสุดของห้องโดยสาร เขาได้สั่งเบอร์เบินกับโซดามานั่งจิบแบบสบายอารมณ์ และในเวลา 14:50 น. เที่ยวบิน 305 ได้ออกบินตามกำหนดเวลา และเพียงแค่ 10 นาทีต่อมา คูเปอร์ได้ยื่นกระดาษโน้ตให้แอร์โฮสเตสที่นั่งใกล้เขามากที่สุด ฟลอเรนซ์ แชฟฟ์เนอร์ (Florence Schaffner)
เพื่อน ๆ ชาว UNLOCKMEN หลายต่อหลายนคงเคยได้ยินคำว่า “Rock Never Dies” เพื่อเปรียบเปรยถึงการอยู่ยงคงกระพันของดนตรีแนวนี้ ที่ดำรงคงอยู่มานานกว่า 50 ปีแล้ว และแตกกิ่งก้านสาขาไปจนมีแนวทางยิบย่อยจวนจนปัจจุบัน แต่เวลาผ่านไปดูเหมือนคำๆนี้จะค่อยๆคลายมนต์ขลังอย่างเหลือเชื่อ จนคำว่า “Rock is Dead” ดูจะมีเป็นความจริงมากกว่าเสียด้วยซ้ำ ซึ่งคนที่มายืนยันทฤษฎีก็ไม่ใช่ที่ไหน คือป๊ะป๋าแห่งวงการร็อคที่อยู่มาอย่างยาวนานอย่างลุง Gene Simmons มือเบสแห่งวงร็อคในตำนานอย่าง Kiss ที่มาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นนี้มาหลายต่อหลายครั้ง ครั้งแรกที่ Gene พูดถึงกรณีของการล่มสลายของดนตรีร็อคเกิดขึ้นในปี 2014 ที่เขาได้ให้สัมภาษณ์กับลูกชายของเขา Nick Simmons กับนิตยสาร Esquire ว่า “ค่ายเพลงเริ่มไม่มาเหลียวแลวงร็อคแล้ว พวกเขาไปโอ๋ศิลปินแนวอื่นกันหมด” ครั้งต่อมา Gene ก็ย้ำอีกครั้งในการสัมภาษณ์ให้กับ Gulf News ว่า “หมดเวลาของการสร้างภาพลักษณ์อันยิ่งใหญ่ของเหล่าร็อคสตาร์แล้ว!!! และครั้งล่าสุด ก็เกิดขึ้นมาหมาดๆ เมื่อ Gene ได้ไปให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Q104.3 Radio Station ที่จัดรายการโดย Jonathan
นับเป็นความตื่นตาตื่นใจและปลุกความรู้สึกตื่นเต้นได้อย่างทรงพลังสำหรับตัวอย่าง Godzilla VS. Kong ที่ค่ายหนังต่างหมายมั่นปั้นโปรเจกต์นี้ให้เป็นการเปิดศักราชในการดูหนังในโรงใหญ่อย่างเป็นทางการ หลังจากที่วงการหนังซบเซาจากวิกฤตโคโรนาไวรัสจนโรงหนังแทบจะกลายเป็นป่าช้าให้กลับมาคึกคักกันอีกครั้ง แต่การโคจรมาพบกันของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งโลกภาพยนตร์ ก็นับเป็นการผ่าทางตันของทางผู้สร้างที่ต้องการจะขยายจักรวาลของหนังให้กว้างใหญ่ไพศาลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราเรียกหนังแนวนี้ว่า Crossover Film และนี่คือ หนังใหญ่ชนยักษ์ในหลายรูปแบบที่เป็นการวอร์มก่อนรับชม Godzilla VS. Kong ที่สามารถหาชมได้จากสตริมมิ่งทั่วไป Freddy vs. Jason เริ่มต้นด้วยหนังฆาตกรโรคจิต 2 รุ่น ที่เป็นหนังคัลท์ระดับคลาสสิคที่สุดท้ายก็ได้โคจรมาพบกันเพื่อมอบประสบการณ์ระทึกขวัญที่สะใจคอหนังเลือดสาดได้เฮ มุมแดง : Jason Voorhees เป็นต้นฉบับของนักฆ่าในแคมป์ที่เลือกเอาวันศุกร์ 13 เป็นวันกระหายเลือด ไอ้หน้ากากฮ๊อกกี้ Jason ที่สร้างความสยองมาแล้วจากหนัง Friday the 13th ที่ไล่ล่าฆ่าไม่เลี้ยงมาตั้งแต่ยุค 80s โดยปรากฏตัวครั้งแรกในหนัง Friday the 13th Part III (1982) และมีภาคต่อตามมาอีกหลายต่อหลายภาค มุมน้ำเงิน : Freddy Krueger นักล่าฝัน