JOSH HOTEL คือโรงแรมเล็ก ๆ แต่มีความน่ารักในตัวเองสูง เหมือนหลุดมากจากภาพยนตร์ของ Wes Anderson ซ่อนตัวอยู่ในความเงียบสงบของย่านอารีย์ ซึ่งครั้งหนึ่ง UNLOCKMEN เคยพาไปเยี่ยมชมกันมาแล้ว (ย้อนชมความโดดเด่นของ JOSH HOTEL ที่นี่) วันนี้เรามีโอกาสได้กลับไปเยือน JOSH HOTEL อีกครั้ง แต่ด้วยจุดประสงค์ที่ต่างไปจากเดิม เราได้ข่าวมาว่าที่นี่ปรับปรุงพื้นที่บางส่วนกลายเป็นบาร์ที่มีคอนเซ็ปต์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร เราจึงอยากพิสูจน์ความแปลกใหม่นั้นด้วยตัวเอง เราเดินทางมาถึง JOSH HOTEL ในช่วงเย็น ตึกสีสันน่ารักมีท้องฟ้า Vanilla Sky เป็นฉากหลังยังทำให้เราตื่นตาตื่นใจเสมอ เมื่อเราเดินเข้าในส่วนล็อบบี้ การจะเข้าไปใน ‘The Key’ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ได้นั้นเราต้องไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์เสียก่อน แล้วจะได้คีย์การ์ดผ่านประตูมา เป็นกิมมิคเล็ก ๆ ที่สร้างสรรค์และเหมาะกับชื่อ The Key ได้คีย์การ์ดมาแล้ว ห่างจากเคาน์เตอร์เช็คอินไปไม่กี่ก้าว มีประตูสีแดงบานใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ และที่นั่นแหละคือทางเข้าสู่ The Key หลังจากที่เราแตะบัตร ประตูก็จะเปิดออก สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าเราคือบาร์เล็ก ๆ สไตล์ Speakeasy เรียบหรู ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องลับที่ไหนสักแห่ง เรานั่งลงที่บาร์ก่อนจะเริ่มพูดคุยกับผู้ให้ข้อมูลและบาร์เทนเดอร์โดยมีเสียงเพลงแจ๊สเป็น Ambient
สัญชาตญาณนักดื่มในตัวผู้ชายมีระดับมักไม่ใช่แค่การกรอกของเหลวลงคออย่างพลุ่งพล่านแล้วจบลงที่ความเมามายไม่ได้สติเท่านั้น แต่ศิลปะแห่งการดื่มกินของผู้ชายอยู่ที่การได้ดื่มด่ำเครื่องดื่มสีอำพันในมือพร้อม ๆ กับการละเลียดความเป็นมาและเรื่องราวของเครื่องดื่มแก้วนั้น การดื่มด่ำ Single Malt Scotch Whisky ก็เช่นกัน การได้ซึมซาบที่มาที่ไปของเครื่องดื่มสุดคลาสสิคผ่านการอ่าน SINGLE MALT 101: รู้จักโลก “ซิงเกิลมอลต์”แบบรอบด้านเพื่อการดื่มอย่างมีระดับของผู้ชาย ในครั้งก่อนจึงทำให้การกลับไปดื่ม Single Malt แก้วเดิมกลับให้ความรู้สึกลุ่มลึกกว่าที่เคยหลายเท่าตัว ครั้งนี้ UNLOCKMEN เลยขออาสาพาผู้ชายทุกคนไปยังเขต Highland ของประเทศสก็อตแลนด์ เพื่อทำความรู้จักกับ GLENMORANGIE ที่เป็น Single Malt Scotch Whisky ระดับพรีเมียมซึ่งรับรองได้เลยว่าจะเติมเต็มเรื่องรสชาติแบบที่ผู้ชายทุกคนตามหาและมาพร้อมเรื่องราวเฉพาะแบบฉบับ GLENMORANGIE ที่เข้มข้นไม่แพ้รสชาติและทำให้คุณเป็นนักดื่ม Single Malt ตัวจริงแน่นอน THE LEGACY OF GLENMORANGIE การได้ดื่มด่ำรสชาติ Single Malt ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถือเป็นการดื่มที่นอกจากทำให้การดื่มลื่นคอยิ่งขึ้นยังทำให้เราซึมซับความเป็นมาของ Single Malt สไตล์นักดื่มตัวจริงไปด้วยอย่างแนบเนียน โดยเรื่องราวของ GLENMORANGIE ครั้งนี้จะย้อนกลับไปไกลถึงปี ค.ศ. 1843 GLENMORANGIE ได้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวสก็อตแลนด์ที่ชื่อว่า William Matheson ในปี
‘เบียร์’ คือเครื่องดื่มที่อยู่คู่มนุษย์มาเนิ่นนาน เป็นเครื่องดื่มที่เราดื่มกันอยู่แทบทุกวัน ไม่ว่าวันเกิด วันสุข วันเพื่อน วันเหงา วันพิเศษ ปีใหม่ ตรุษจีน จะวันไหน ๆ เราก็สดชื่นได้ด้วยเบียร์เย็น ๆ และเมื่อวันสำคัญแบบนี้เวียนมาบรรจบทั้งที UNLOCKMEN ก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมร้านเบียร์สุดชิลมาแนะนำกับ 10 ร้านคราฟต์เบียร์ที่คอเบียร์ไม่ควรพลาด ส่วนใครมีร้านเจ๋ง ๆ มาแชร์อีก เรายินดีไปเป็นเพื่อนร่วมทาง Hair of the Dog ร้านคราฟต์เบียร์เล็ก ๆ ใจกลางเมืองที่ตัวร้านมาในบรรยากาศของโรงพยาบาลร้าง แสงนีออนสีม่วงแดงของร้านให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหา ถึงแม้ว่าขนาดของร้านจะเล็กแต่คุณภาพเรื่องเบียร์ของที่นี่ไม่เล็กตามไปด้วย เพราะที่นี่มีเบียร์คราฟต์ให้เลือกดื่มได้ถึง 13 แท็ป นอกจากนั้นยังมีเบียร์ขวดจากต่างประเทศอีกมากมายแช่เย็นอยู่ในตู้พร้อมเสิร์ฟ และนอกจากเบียร์รสชาติดีแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่คุณจะได้จาก Hair of the Dog คือมิตรภาพ เนื่องจากขนาดร้านที่ค่อนข้างเล็กและคอนเซ็ปต์ร้านที่มีความเป็นสากลจึงทำให้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คุณจะเริ่มบทสนทนากับคนแปลกหน้าในร้าน หรือพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องเบียร์ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงแต่อย่างใด Location: Mahatun Plaza, 2nd Floor, 888/26 Ploenchit Road, Lumpini, Patumwan, Bangkok Open: 5.00 pm
ไม่มีอะไรจะเข้ากันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากไปกว่าอาหารญี่ปุ่นแล้ว ยิ่งหลังเลิกงานมาเหนื่อย ๆ สองสิ่งนี้ช่วยเยียวยากายและใจได้อย่างดี ต้องเป็นที่บาร์ญี่ปุ่นแท้ ๆ เท่านั้นด้วยจึงจะได้บรรยากาศ และท่ามกลางบาร์สไตล์ญี่ปุ่นมากมายในกรุงเทพ วันนี้ UNLOCKMEN ขอเลือกมาแนะนำทั้งหมด 5 ร้านด้วยกัน ซึ่งบรรยากาศภายในแต่ละร้านถ้าไม่บอกว่าอยู่ในกรุงเทพนี่ดูไม่ออกแน่นอน เพราะกลิ่นอายแดนอาทิตย์อุทัยมาเต็มเหลือเกิน Salon du Japonisant ประตูไม้บานเล็ก ๆ ข้างกำแพงสีดำตระหง่านคือสิ่งที่คั่นกลางระหว่างบรรยากาศเมืองแสนวุ่นวายกับความเงียบสงบสไตล์ญี่ปุ่น เมื่อเราผลักประตูเข้าไปก็จะพบกับบาร์ไม้เล็ก ๆ อวลไปด้วยกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น และมีความเป็นส่วนตัวเต็มที่เนื่องจาก Salon du Japonisant รองรับลูกค้าได้ไม่เกิน 10 คน หลังจากหย่อนตัวลงนั่งคุณก็สามารถผ่อนคลายกับเครื่องดื่มนานาชนิดไม่ว่าจะเป็น Whiskey, Sake, Cocktail, Umeshu ฯลฯ ผ่านการรังสรรค์จากบาร์เทนเดอร์ยอดฝีมือที่ทำให้เครื่องดื่มแต่ละแก้วนั้นเปรียบได้กับงานศิลปะ ยิ่งได้รับประทานอาหารญี่ปุ่นรสดั้งเดิมยิ่งเข้ากันเป็นอย่างดี ผู้ชายคนไหนที่กำลังหาที่สงบ ๆ เพื่อผ่อนคลาย หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน Salon du Japonisant ตอบโจทย์คุณแน่นอน Location: 36/5 Soi Sukhumvit 39 Sukhumvit Rd., Klongton Nua, Wattana, Bangkok
“เหล้า” เมื่อพูดคำนี้ขึ้นมาหลาย ๆ คนคงรู้สึกได้ถึงความมึนเมา และเป็นสิ่งที่นำพามาซึ่งปัญหาให้กับสังคม แต่ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า “เหล้า” คือเพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ ดื่มเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ ดื่มเพื่อไว้อาลัย หรือเป็นแม้กระทั่งน้ำมงคลเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา เป็นยารักษาโลก และอีกมากมายเหตุผลที่จะนึกได้ แล้วทำไมเจ้าเครื่องดื่มชนิดนี้ถึงมีความสามารถหลากหลายด้านเหลือเกิน อีกทั้งยังมีส่วนเกี่ยวของกับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติแทบทุกยุคทุกสมัย บางมุมของโลกเปรียบเป็นดั่งน้ำอัมฤทธิ์ แต่บางที่ก็กลายเป็นของต้องห้ามอย่างเด็ดขาด วันนี้เราจะมาปลดล็อคกันครับว่า “เหล้า” มันคืออะไรแล้วตกลงมันคือผู้ร้าย หรือพระเอกกันแน่ หากย้อนพูดถึงประวัติของเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เมาคงไม่อาจจะทราบแน่ชัดได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เพราะตั้งแต่ที่เริ่มมีการบันทึกประวัติศาตร์ของมนุษย์ชาติไม่ว่าจะเป็นพุทธศักราช หรือคริสต์ศักราชก็ดี จะเห็นได้ชัดว่ามีการพูดถึงเครื่องดื่มประเภทน้ำเมาตั้งแต่แรกเริ่มประวัติศาสตร์แล้ว นักวิชาการหลาย ๆ คนมีความคิดเห็นว่าจริง ๆ แล้วเครื่องดื่มชนิดนี้อาจจะมีมาก่อนที่จะมีการบันทึกประวัติศาสตร์ของมนุษย์ด้วยซ้ำไป คำว่า “เหล้า” สำหรับบ้านเราอาจจะเป็นภาษาพูดที่เหมารวมไปสักหน่อย เพราะในความเป็นจริงแล้วเครื่องดื่มประเภทน้ำเมามีหลากหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็น ไวน์ บรั่นดี เบียร์ ซิงเกิ้ลมอลท์ วิสกี้ หรือ วอดก้า เป็นต้น จะจำแนกแตกต่างกันตามวัตถุดิบที่นำมาใช้ผลิตเช่น ผลองุ่น ข้าวบาเล่ย์ หรือข้าวโพด ต่อมาคือกรรมวิธีในการผลิตเช่น การดอง การหมัก การกลั่น แล้วแต่ภูมิปัญญาของพื้นที่นั้น ๆ
สัญชาตญาณการผจญภัยมันวิ่งพล่านอย่างดุเดือดอยู่ในสายเลือดผู้ชายทุกคนอยู่แล้ว แต่ยิ่งเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ การผจญภัยเพื่อเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ ให้ชีวิตไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องโลดโผนกลางแจ้งอย่างเดียวอีกต่อไป การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ การกระโจนลงไปสัมผัสในพื้นที่ที่ไม่เคยสัมผัส การลิ้มลองรสชาติที่ซับซ้อนเกินคาดเดา การสูดดมกลิ่นอายของสรรพสิ่ง ก็กลายเป็นการผจญภัยที่ต้องจดจำไปชั่วชีวิตได้ “โลกของไวน์” ที่เต็มไปด้วยมิติและความหลากหลายทั้งเรื่องกลิ่น รสชาติ พันธุ์องุ่น และที่มาก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่รอให้ผู้ชายอย่างเราเข้าไปค้นหาอยู่เช่นกัน ในวันที่เราเติบโตจากเด็กชายสู่ผู้ชายคนที่เต็มที่กับชีวิตเราอาจไม่ต้องการกิจกรรมสุดโลดโผนแบบเด็ก ๆ แต่ต้องการการผจญภัยไปในโลกแห่งสุนทรียะ ศิลปะ และวัฒนธรรม การลิ้มรสไวน์จากหลากที่มา หลายรูปแบบจะตอบสนองสัญชาตญาณนักผจญภัยในตัวผู้ชายทุกคนให้โลดแล่นได้อีกครั้งแน่นอน MALBEC : ONE KIND OF WINE ADVENTURE ในโลกของไวน์ที่ไวน์แต่ละชนิดมีที่มาจากพันธุ์สายพันธุ์สุดหลากหลาย “MALBEC” ได้กลายเป็นสายพันธุ์องุ่นที่ถูกจับตามองมากที่สุดอีกสายพันธุ์หนึ่งในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะประวัติศาสตร์แห่งการโยกย้ายถิ่นที่ปลูกจากการหนีโรคระบาดในฝรั่งเศสที่ทำให้ องุ่นพันธุ์ MALBEC เกือบสูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ สู่ความรุ่งเรืองถึงขีดสุดที่อาร์เจนตินา ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะสามารถพบองุ่น MALBEC เถาแท้ที่ไม่ผ่านการตัดแต่งทางพันธุกรรมเลยได้จากที่อาร์เจนติน่าเท่านั้น เพราะ MALBEC ที่ปลูกอยู่ที่ฝรั่งเศสหรือที่อื่น ๆ ในขณะนี้ล้วนผ่านการตัดแต่งพันธุกรรมมาหมดแล้วทั้งสิ้น เรื่องราวเหล่านี้ยิ่งชวนให้ผู้ชายอย่างเราต้องทึ่งและอยากผจญภัยไปในเรื่องราว อัตลักษณ์และรสชาติของ MALBEC องุ่นสายพันธุ์แกร่งที่คลาสสิคตลอดกาล จนกลายเป็นอีกหนึ่งที่มาของไวน์แดงอันเป็นที่นิยมแห่งยุคสมัย
ผู้ชายอย่างเราจะดื่มจะกินทั้งทีมันต้องมีชั้นเชิง จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พวกเรา UNLOCKMEN ไม่หยุดค้นหาร้านที่ให้บรรยากาศแปลกใหม่และสร้างความสนุกกับการกินแบบเหนือกว่า โดยคราวนี้เรามาหยุดกันที่ร้านอำพรางสุดเนียนที่หลอกตาเราเสียสนิทแต่ไม่อาจหลอกลิ้นของเราได้ หนุ่มคนไหนที่อยากดื่มกินความคราฟต์ของเหล้าแรง ๆ ในคราบการจำแลงกายในรูปแบบใหม่ ๆ เย็นเจี๊ยบชนิดเป็นน้ำแข็งเนื้อนวล ไม่เน้นความเมา แต่เน้นการ enjoy เราขอชวนคุณและเผื่อที่ให้สาว ๆ ข้างกายของคุณมานั่งข้าง ๆ กันที่ “RYN cafe” ร้านไอศกรีมสไตล์ Speakeasy bar แห่งนี้ What is “Speakeasy” ? สำหรับคนที่สงสัยว่าคำว่า Speakeasy คืออะไร ก่อนเข้าร้านเรามาเตรียมตัวกันหน่อย เวลาใครถามจะได้บอกต่อได้ว่าที่มาของคำ ๆ นี้เกิดขึ้นช่วงปี 1920-1933 ขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในยุคที่เรียกได้ว่าเป็น Dark age ของแอลกอฮอล์อย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลทางการเมือง สงคราม และศาสนา ทำให้การมีเครื่องดื่มสายมึนไว้ในครอบครองถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้สิงห์น้ำเมาผู้รักการชนสะดุ้งสะเทือน แต่กลับยิ่งก่อกำเนิดบาร์ลับตามจุดต่าง ๆ เพื่อแสดงการขบถไปทั่วเมือง โดยใช้ชื่อเรียกบาร์เหล่านี้ว่า “Speakeasy” Speakeasy จะหาเจอได้อย่างไร บอกได้เลยว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ แต่เป็นวิธีการส่งต่อเรื่องราวแบบ Word
“สุขุมวิท” ย่านใจกลางเมืองที่แน่นขนัดไปด้วยร้านรวงและผู้คน ทุกตารางนิ้วในย่านธุรกิจแห่งนี้มีราคาที่ประเมินค่าออกมาเป็นตัวเลขหลายหลัก ทว่ามุมหนึ่งของมหานครกลับมีร้านอาหาร Hidden Gems ให้หยุดเวลาภายใต้ร่มไม้เขียวซึมซับบรรยากาศสงบและการตกแต่งแบบ cozy เพื่อนั่งถ่ายทอดบทสนทนาระหว่างรับประทานอาหารรสเลิศอย่างรื่นรมย์ ไม่ต้องสนใจสายตาใคร โดยมีกฎน่าสนใจตรงที่ร้านนี้รับลูกค้าเพียง 2 รอบคือช่วงเวลามื้อเช้ากับมื้อเย็น และแต่ละรอบที่รับจอง เขารับจำกัดจำนวนคนไม่เกิน 12 คน เท่านั้น! UNLOCKMEN ขอเชิญชวนคุณมาเปิดสุนทรียศาสตร์แห่งการกินที่ครบรสทั้งแรงบันดาลใจ แนวคิด แล้วปิดท้ายกันด้วยมื้ออร่อยให้อิ่มเอมชวนน้ำลายสอที่ร้าน “MIGHTY PRIVATE DINING” กับ คุณปัง – คงศักดิ์ ลิขิตจรรยากุล หนึ่งในหุ้นส่วนของร้าน Having a crush! ท่ามกลางกระแสของการกินหลากเมนูอย่าง Buffet ที่เพิ่มจำนวนขึ้น “Mighty Private Dining” กลับเลือกนำเสนอในสิ่งที่แตกต่างด้วยการต้อนรับลูกค้าให้เข้ามา “นั่งแช่” เพื่อลิ้มรสความอร่อยแทนที่วัฒนธรรมการกินแบบ “เก้าอี้ดนตรี” สุดเร่งรีบ แนวคิดต่างแบบนี้เกิดขึ้นจริงได้จากวันนั้น วันที่พี่ปังตัดสินใจทิ้งชีวิตแบบ nine-to-five มาหาความชื่นชอบของตัวเองระหว่างการขับรถกลับบ้านเท่านั้น “สมัยก่อนพี่ก็เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดาทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจเครื่องแก้ว วันหนึ่งพี่เดินทางกลับบ้านขับรถขึ้นสะพานแล้วมองไปทางซ้ายเห็น Le Cordon Bleu (เลอ กอร์ดอง
“เฮ้ย ไปกินก๊วยเตี๋ยวกัน” เวลาผู้ชายอย่างเรา ๆ ได้ยินใครชวนไปกินก๊วยเตี๋ยวแบบนี้ ภาพในหัวเรามักมีแต่ภาพร้านก๊วยเตี๋ยวข้างทาง หรือในตึกคูหาแคบ ๆ บรรยากาศไม่ต้องหรูหรา เท่ หรือคูล แต่รสชาติอร่อย กินไป เหงื่อแตกซ่กไป เอาเป็นว่าเรื่องรสชาติเอาไปเกิน 100 แต่สารร่างของเราหลังจากนั้นควรค่าแก่การไปอาบน้ำคลายร้อน ทำความสะอาดเหงื่อไคลให้หายอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง แต่ไม่ใช่กับการกินก๊วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ดที่ “26 ยี่สับหลก” แน่นอน เพราะนี่คือร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อที่มีบรรยากาศราวกับอยูในหนังของผู้กำกับหว่องกาไว ในห้องแอร์เย็นเฉียบที่จะทำให้ผู้ชายอย่างเรากินก๊วยเตี๋ยวได้เท่และคูลที่สุดในชีวิต ส่วนความอร่อยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพราะทายาทรุ่นลูกของร้านก๊วยเตี๋ยวเนื้อชื่อดังย่านพระอาทิตย์อย่างร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ยมาเอง ถ้านึกภาพไม่ออกว่าการพาตัวเองไปกินก๊วยเตี๋ยวเนื้อและเมนูเนื้อแบบเท่ ๆ มันเป็นยังไง ลองให้ UNLOCKMEN พาคุณไปพิสูจน์ดู ผนังเขียว แสงแดง เหมือนได้แฝงตัวอยู่ในหนังหว่องกาไว พักภาพร้านก๊วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยทั้งหลายที่มักอร่อย แต่บรรยากาศไม่อร่อยเท่าไหร่เอาไว้ก่อน แล้วเปิดประตูเข้าไปใน 26 ยี่สับหลก พร้อมกันกับเรา เอาเป็นว่าถ้าใครเป็นแฟนหนังของผู้กำกับชาวฮ่องกงอย่างหว่องกาไวที่ถนัดในการสร้างบรรยากาศเท่ ๆ เหงา ๆ ภายใต้แสงสีหม่นตา เรารับรองได้เลยว่า 26 ยี่สับหลก จะทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในฉากหนังของหว่องกาไวอย่างไรอย่างนั้น ความดิบ ความเท่ แบบที่ผู้ชายอย่างเราต้องหลงใหลอัดแน่นอยู่ภายในร้าน ทั้งงานปูน งานอิฐ งานเหล็ก คุมโทนด้วยผนังสีเขียวเข้ม ตัดกับแสงนีออนสีแดง รวมถึงส่วนครัวที่เปิดเปลือยให้เห็นการปรุงทุกขั้นตอน
Whiskey, Vodka, Rum, Tequila ชื่อของประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล่านี้เชื่อว่าคนไทยคงรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ส่วน Gin หรือ จิน หลายคนอาจจะเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง แต่เชื่อว่าคงมีน้อยคนที่จะรู้ว่ามันคืออะไร? มีที่มายังไง? UNLOCKMEN จะพาไปทำความรู้จักเอง เพราะพวกเราต้องดื่มแบบมีความรู้! ย้อนกลับไปในยุคศตวรรษที่ 16 ณ ดินแดนฮอลันดาหรือปัจจุบันคือประเทศเนเธอร์แลนด์นั่นเอง เป็นยุคที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทต่าง ๆ แพร่หลายและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนกระทั่งวันหนึ่งผู้คนก็เริ่มเบื่อหน่ายกับน้ำเมาประเภทเดิม ๆ จึงพยายามคิดค้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แปลก ๆ ใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วยการนำผลไม้ท้องถิ่นอย่าง ‘ผลจูปิเตอร์’ มาหมักร่วมกับ วิสกี้ ข้าวไรย์ และ ข้าวบาเล่ย์ ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเครื่องดื่มรสชาติดีชนิดใหม่ ผู้คนเรียกเครื่องดื่มประเภทนี้ว่า ‘ดรายจิน’ (Dry Gin) ต่อมาดรายจินได้รับความนิยมข้ามน้ำข้ามทะเลมาจนถึงแผ่นดินอังกฤษ และด้วยความช่างประยุกต์ของชาวผู้ดีจึงได้เพิ่มส่วนผสมอย่างเปลือกส้ม, ยี่หร่า, หวายเทศ, เมล็ดอัลมอนด์ เพื่อความหอมและความหวานที่มากขึ้น จนกลายมาเป็นเหล้าจินซึ่งได้รับความนิยมผ่านกาลเวลามาจนถึงปัจจุบัน อ่านมาถึงตรงนี้ อาจเริ่มกลืนน้ำลาย วันนี้เราจึงรวบรวม 5 Gin Bars ที่หลบซ่อนอยู่ตามมุมต่าง ๆ ของเมืองกรุงให้ทุกคนได้เลือกไปดื่มด่ำกับจินกันให้เต็มที่ จะมีร้านไหนกันบ้างไปดูกันเลย! Teens
เพื่อที่เราจะเข้าถึงประสบการณ์ที่แท้จริงของการสัมผัสอะไรสักอย่าง การเข้าใจถึงเรื่องราวเบื้องหลังของสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญในการเติมเต็มประสบการณ์ให้เต็มที่ได้มากกว่า หรือที่เราเรียกว่าการเสพแบบมีศาสตร์และศิลป์ เช่นเราดูรูปภาพงานศิลปะระดับโลกที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ถ้าขาดซึ่งประวัติของภาพนั้น ๆ การเสพศิลป์นั้นก็คงขาดความสนุกไปจนหมด ไม่ใช่แค่ของไกลตัวอย่างงานศิลปะ ของใกล้ตัวพวกเราอย่างกล้องถ่ายรูปที่ผ่านการผลิตแบบ Handmade นาฬิกาที่ใช้ Movement ละเอียดประณีต หรือเครื่องดื่มดี ๆ ที่ผ่านการบวนการผลิตอันซับซ้อนยาวนาน การจะเข้าใจถึงสัมผัสของสิ่งนั้นย่อมต้องรู้เรื่องราวเบื้องหลังให้ดีเสียก่อน จึงจะเข้าถึงความพิเศษของสิ่งเหล่านั้นได้ ที่ผ่านมาเราพูดถึงเรื่องเรื่องราวความพิเศษของนาฬิกาชนิดต่าง ๆ ไปหลายรุ่นแล้ว วันนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องดื่มตัวหนึ่งที่มีความพิเศษมาก นั่นคือ Johnnie Walker Blenders’ Batch แต่หลายคนอาจจะเผลอจดจำมันในชื่อ Johnnie Walker White Label หรือ Johnnie Walker ฉลากขาว ซึ่งอาจจะสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อน ทำให้เรามองข้ามรายละเอียดที่น่าสนใจของมันไป และวันนี้เราจะมาไขกระจ่างว่า Johnnie Walker Blenders’ Batch คืออะไร เกิดขึ้นมาจากไหน และมันมีรายละเอียดอะไรที่พิเศษจนเราต้องหยิบขึ้นมาพูด Johnnie Walker Blenders’ Batch การทดลองพร้อมดื่มแบบ Limited Edition แม้ฉลากจะเป็นสีขาว แต่มันไม่ใช่
ในค่ำคืนสุดสัปดาห์แบบนี้ เชื่อว่าชาว UNLOCKMEN หลังเลิกงานคงไม่มีใครยอมกลับบ้านเฉย ๆ แน่ ทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ก็ต้องปลดปล่อยกันหน่อยให้สมกับ TGIF …แต่จะไปไหนดีล่ะ? จะไปบาร์ ดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า ก็เริ่มจะน่าเบื่อเสียแล้ว เพราะเบียร์ก็ยี่ห้อเดิม เหล้าก็รสชาติเดิม เพลงที่เล่นในร้านก็เพลงเดิม ๆ วันนี้ UNLOCKMEN เลยขอเสนอ ‘บาร์ยาดอง’ ที่จะทำให้ค่ำคืนสุดสัปดาห์ของคุณต่างไปจากเดิม ก่อนอื่นเราอยากให้ลบความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับยาดองออกไปให้หมด เพราะเชื่อว่าหลายคนแค่ได้ยินคำว่ายาดองก็ขยาดเสียแล้ว เนื่องจากมันดูดื่มยาก และร้านที่ขายก็มีแต่ร้านข้างทางบรรยากาศไม่ค่อยเหมาะกับการแฮงเอาท์สุดสัปดาห์เท่าไรนัก แต่วันนี้บาร์ยาดองทั้ง 5 ร้านที่ UNLOCKMEN หยิบมาแนะนำนั้น บรรยากาศแต่ละร้านฮิปสุด ๆ เรียกได้ว่าทำให้ลืมภาพจำ ลืมความเข้าใจเดิม ๆ ที่มีต่อร้านยาดองเปลี่ยนไปได้เลย จะมีร้านไหนกันบ้าง ไปดูกัน ! เสพย์บาร์ บาร์ค็อกเทลยาดองย่านถนนพระสุเมรุซึ่งหลบซ่อนตัวอยู่ใต้ Jam Hostel ทันทีที่เดินเข้าไปในร้านจะพบกับการตกแต่งร้านสไตล์ไทยโมเดิร์น โดดเด่นด้วยแคร่ไม้ที่ตั้งอยู่เรียงราย และโปสเตอร์ย้อนยุคบนผนัง ในส่วนของดนตรีที่เปิดภายในร้านก็เป็นเพลงไทยเดิมเข้ากับบรรยากาศร้านสุด ๆ และเมื่อเป็นบาร์ยาดอง ก็คงจะขาดยาดองเสียไม่ได้ด้านบนคือ ‘เสพย์ยาดอง’ เมนู