ความโปรดักทีฟดูจะมีประโยชน์ต่อหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตลูกผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน หรือ การพัฒนาตัวเอง ถ้าเราตั้งใจทำงาน มีความกระตือรือร้นในการทำผลงานให้ออกมาดีอยู่เสมอ เราสามารถก้าวหน้าได้เร็วกว่าใครเพื่อน แต่ความโปรดักทีฟที่มากเกินไปอาจให้ผลแย่ต่อชีวิตของเราเหมือนกัน เพรามันอาจนำมาซึ่งความรู้สึกผิดจากการหยุดทำงาน และทำให้เราไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสุขใจ เราเรียกความคลั่งไคล้ความโปรดักทีฟแนวนี้ว่า Toxic Productivity หรือ ภาวะผลิตภาพเป็นพิษ ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำลายสุขภาพจิตของมนุษย์ได้มากพอสมควร UNLOCKMEN เลยอยากมาแนะนำวิธีการเอาชนะอาการนี้ เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น รับรู้อาการ Toxic Productivity ก่อนที่เราจะลงมือแก้ปัญหาอะไรก็ตาม เราควรเข้าใจปัญหานั้นในระดับหนึ่งก่อน เพราะถ้าเราไม่เข้าใจปัญหา เราก็จะไม่มีความรู้เพียงพอสำหรับการแก้ปัญหา สำหรับเรื่อง Toxic Productivity ก็เช่นกัน ถ้าเราไม่รับรู้ว่าตัวเองกำลังมีปัญหานี้ การแก้ปัญหามันก็ยาก เราเลยอยากพูดถึงสัญญาณของ Toxic Productivity เพื่อให้ทุกคนลองเช็คตัวเองกันดู ได้แก่ สูญเสียเวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำหรือคิดเรื่องงาน คาดหวังปริมาณงานที่ตัวเองควรทำได้สูงเกินไป รู้สึกผิดหรือล้มเหลวเมื่อหยุดทำงาน รู้สึกว่าทำงานได้น้อยเกินไปบ่อย ๆ รวมถึง มีอาการนอนไม่ค่อยหลับ เพราะกังวลถึงเรื่องที่ยังค้างคา รับฟังคนที่รู้ใจ บางทีเราอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกเรื่องงานครอบงำชีวิตมากเกินไป หรือ บางทีก็รู้ แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไร เมื่อเราไม่พูดคุยกับคนอื่น เราอาจเกิดอาการคิดเองเออเอง ซึ่งส่งผลเสียต่อเราและคนรอบข้าง อย่างการใช้ชีวิตคู่
เราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างดูจะเดินทางได้เร็วไปหมด ไม่ว่าจะเป็น การพูดคุย การรับส่งข่าวสาร หรือ การทำงาน ฯลฯ ซึ่งวิถีชีวิตที่เร็วขึ้นกว่าแต่ก่อนนี้ อาจทำให้เรากลัวการใช้ชีวิตแบบ slow life ขึ้นมา ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เช่น กลัวว่าจะตามกระแสไม่ทัน กลัวว่าจะทำงานไม่ทัน เป็นต้น และถ้าความกลัวหนักข้อขึ้น มันจะพัฒนาเป็น Hurry Sickness ได้ ซึ่งอาการนี้กระทบต่อความสุขของเราได้พอสมควร เราเลยอยากมาพูดถึงวิธีการรับมือกับ Hurry Sickness ให้อยู่หมัด Hurry Sickness คือ ภาวะที่เรารู้สึกว่าต้องทำทุกอย่างด้วยความเร่งรีบตลอดเวลา โดยคนที่มีอาการนี้มักจะรู้สึกกดดันหรือตื่นตระหนกเหมือนต้องแข่งขันกับเวลา ส่งผลให้พวกเขาทำทุกเรื่องด้วยความเร่งรีบ ซึ่งสาเหตุที่อาการนี้เกิดขึ้นมา อาจเป็นเพราะรู้สึกว่าเวลาหนึ่งวันมีน้อยเกินไปสำหรับทำสิ่งต่าง ๆ หรือกลัวว่าถ้าทำอะไรช้าไปแล้ว จะพลาดอะไรบางอย่างไป จึงต้องรีบทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว กล่าวคือ Hurry Sickness เกิดขึ้นจากอาการยอดฮิตอย่าง Fear of Missing Out (FOMO) ได้เหมือนกัน พฤติกรรมที่ชัดเจนในกลุ่มที่เป็น Hurry Sickness คือ